ศธ. จับมือ กสศ. เปิดเครือข่าย “ตลาดวาดฝัน” หนุนเด็กทุนเสมอภาคเข้าสู่อาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้
5 กันยายน 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "ตลาดวาดฝัน ส่งต่อรอยยิ้ม สร้างโอกาส สร้างอาชีพ นักเรียนทุนเสมอภาค" เพื่อเชิญชวนประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนร่วมสมทบเงินบริจาค ต่อยอดความช่วยเหลือที่ยั่งยืนกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยมี นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการ กพฐ. ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธาน กสศ. นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. ผู้อำนวยการ ครู นักเรียนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมในพิธี โดยมีโรงเรียนต้นแบบจัดกิจกรรมทักษะอาชีพพร้อมผลิตภัณฑ์ฝีมือของนักเรียนทุนเสมอภาค จากทั่วประเทศ มาร่วมออกร้าน “ตลาดวาดฝัน” ณ โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ จังหวัดปทุมธานี
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว. ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาฯ พร้อมเดินหน้านโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาโดยใช้กลไกกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. มาบูรณาการ ในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาฯ ในการจัดการศึกษาระดับก่อนอนุบาล อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา รวมไปถึงการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมีตัวชี้วัดสำคัญที่จะร่วมกันก้าวไปให้ถึง คือ นักเรียนยากจนและยากจนพิเศษในทุกโรงเรียน จะต้องไม่หลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ได้ ซึ่งความสำเร็จนี้จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา ที่ทั่วโลกได้ให้พันธสัญญาร่วมกันว่าภายในปี 2030 จะร่วมกันจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่เด็กและเยาวชนทุกคนได้ครบ 100%
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไขหรือทุนเสมอภาค ได้ช่วยบรรเทาอุปสรรคในการมาเรียนให้แก่นักเรียนและครอบครัวที่ยากจนพิเศษ ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือนต่ำกว่า 1,250 บาท ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ความยากจนของ สพฐ. กว่า 50% (3,000 บาทต่อคนต่อเดือน) โดยทุนเสมอภาคแบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วน ได้แก่ ค่าเดินทาง ค่าครองชีพ และค่าจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต ซึ่งต่อยอดจากกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะเป็นความช่วยเหลือที่ไม่ได้มุ่งสงเคราะห์ แต่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนกลุ่มยากจนที่สุดได้แสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ และยังสร้างรายได้ให้แก่นักเรียนได้จริง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ทำให้เกิดผลลัพธ์ปลายทางอย่างยั่งยืน
“อยากผลักดันการศึกษาไทยโดยเฉพาะการสร้างโอกาส สร้างอาชีพให้เยาวชนไทยซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดของประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และการที่กองทุน กสศ.ได้ทำให้เห็นถึงแนวทางความเสมอภาคทางการศึกษา โดยการสร้างโอกาสให้กับน้อง ๆเป็นการส่งเสริมให้ข้อมูลใหม่ๆกับ สพฐ.ได้เห็นจากกิจกรรมของเครือข่ายโรงเรียนที่มาออกร้านในวันนี้ ในการสร้างอาชีพ สร้างความรู้ให้กับนักเรียน ซึ่งสพฐ.ก็จะนำข้อมูลนี้ไปขยายเป็นวงกว้างให้มากขึ้น ขอยืนยันว่า กระทรวงศึกษาฯมีนโยบายที่จะลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ต้องการสร้างความเท่าเทียมของการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนทุกคนในประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดยื่นของกระทรวงศึกษาฯและเป็นความมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ผลในเวลาอันรวดเร็วที่สุด จะนำนิทรรศการดีๆที่เห็นในวันนี้เผยแพร่ผ่านทางเทคโนโลยีทางการศึกษาไปให้โรงเรียนอื่นๆได้เห็นเป็นแบบอย่าง อซึ่งการจะสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาทั้งระดับประถมฯ มัธยมฯ อาชีวะฯ และ กศน.ก็เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนเข้าถึงการพัฒนาเพื่อเข้าสูอาชีพที่มั่นคง ดังนั้น เป็นหน้าที่ของ ศธ.ที่จะต้องศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลว่ายังมีเด็กคนใดหรือยังมีส่วนใดที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาการศึกษาให้เท่าเทียมกันตามเกณฑ์การศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดขึ้นทุกคน ทุกจุด สำหรับงบฯที่ศธ.ได้รับอาจจะไม่สามารถทำได้ภายในปีเดียว แต่การที่ กสศ.และภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ จึงอยากให้ขยายผลให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมส่งเสริมสนับสนุน ศธ.ให้กว้างขึ้น เพราะ การที่ครอบครัวเด็กยากจนพิเศษ มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือนต่ำกว่า 1,250 บาท ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก ไม่สามารถส่งเสริมให้ลูกหลานเข้าถึงการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น กิจกรรมในวันนี้จึงจะช่วยผลักดันแก้ไขปัญหานี้ช่วยให้นักเรียนทุกคน ได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกันและสุดท้ายประเทศไทยก็จะได้บุคลากรที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ“
ด้าน ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือด้วยแนวทางสงเคราะห์แต่เพียงลำพังนั้น ยากที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างยั่งยืน และไม่สามารถหยุดปัญหาความยากจนข้ามชั่วคนได้ ส่วนหนึ่งของกองทุนเสมอภาคของ กสศ. จึงมุ่งไปที่กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตให้นักเรียนทุนเสมอภาคเหล่านี้สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลครอบครัวได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยการสนับสนุนและบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของโรงเรียน คุณครู นักเรียน ขณะนี้มีโรงเรียนที่มีความพร้อมสามารถขยายผลกิจกรรมทักษะอาชีพนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายรูปแบบ สร้างรายได้ให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาค สมัครเข้าร่วมเป็นเครือข่าย ตลาดวาดฝันสร้างโอกาส สร้างอาชีพ เบื้องต้นแล้ว 107 โรงเรียนทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาค
นอกจากนี้ ความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาฯ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และคุณครูทั่วประเทศทำให้ กสศ. สามารถสนับสนุนทุนเสมอภาคเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนที่สุดให้แก่โรงเรียนในสังกัด สพฐ. จำนวน 29,871 โรงเรียน ซึ่งในปีการศึกษา 2562 จะสามารถช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มนี้ได้ถึง 723,604 คน อย่างไรก็ตาม ยังต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนมาร่วมเติมเต็มความช่วยเหลือให้เด็กยากจนพิเศษกลุ่มนี้ให้ได้มากขึ้นให้ครอบคุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ
“ก็ขอเชิญชวนประชาชน รวมถึงภาคธุรกิจเอกชน ร่วมกันบริจาคสมทบ หรือสนับสนุนในแง่องค์ความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อต่อยอดความช่วยเหลือที่ กสศ.ได้ดำเนินการไว้แล้ว ให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนแก่เด็ก ๆมากยิ่งขึ้น โดยสามารถติดตามกิจกรรมของเครือข่าย “ตลาดวาดฝัน” เพื่อร่วมสนับสนุนหรืออุดหนุนผลิตภัณฑ์จากกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพหรือโครงการอื่นๆ ของนักเรียนทุนเสมอภาค ได้ที่ www.eef.or.th และภาคธุรกิจหรือประชาชนทั่วไป ที่ประสงค์ร่วมสมทบทุนบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กๆกลุ่มที่ยากจนที่สุดของประเทศ สามารถเข้าไปบริจาคและใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้อัตโนมัติ ที่เว็บไซต์ https://donate.eef.or.th/main-donate หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โทร. 0 2079 5475”
ขณะที่ นายสมคะเน ดาษดา ผอ.โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ กล่าวว่า เงินอุดหนุนจากโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่นไข(นักเรียนทุนเสมอภาค) ของกองทุน กสศ.เป็นสิ่งจำเป็นต่อเด็ก ๆ โรงเรียนได้นำทุนไปส่งเสริมให้นักเรียนเป็นทุนสำหรับต่อยอด ฝึกอาชีพ สร้างรายได้ สร้างอนาคต ในการสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตต่อตัวเด็กที่ยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี