สั่งย้ายด่วน!
4จนท.แก่งกระจานปี’57
เปิดทางสอบคดีอุ้มฆ่า‘บิลลี่’
ดีเอสไอย้ำหลักฐานต้องแน่น
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีคำสั่งย้ายด่วน4 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคดี“บิลลี่”เมื่อช่วงปี 2557 ระบุทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ต้องการให้ทุกภาคส่วนเกิดความสบายใจ และเปิดทางให้ดีเอสไอทำคดี ด้านอธิบดีดีเอสไอ งดตอบโต้ “ชัยวัฒน์” ย้ำชัดยังไม่ออกหมายจับ หากหลักฐานไม่ครบ เผยรอผลตรวจชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือจากนิติวิทยาศาสตร์ คาด 3 เดือนสรุปสำนวนคดีได้
เมื่อวันที่ 6 กันยายนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้ได้เซ็นคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 4 คนชุดที่เคยปฏิบัติงานในช่วงปี 2557 และเป็นชุดที่เคยอยู่ในช่วงที่จับกุมคดีครอบครองน้ำผึ้ง ของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย โดยสั่งให้ออกนอกพื้นที่อุทยานแก่งกระจาน ไปอยู่พื้นที่อื่น ทั้งนี้ เพื่อความสบายใจของทุกภาคส่วน และเปิดทางให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สืบสวนสอบสวนคดีบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ที่มีหลักฐานการพบว่าเสียชีวิตแล้ว
“เท่าที่ข้อมูลที่ผมมี ณ วันนั้น มี 4 คนนี้ เพื่อความสบายใจของทุกภาคส่วน จึงได้สั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ วันนั้น 4 ราย ออกนอกพื้นที่แก่งกระจาน ส่วนผิดหรือไม่ ผมไม่รู้ ยกเว้นดีเอสไอส่งข้อมูลว่าคนนี้ผิดแน่นอน” นายธัญญา กล่าว
นายธัญญา กล่าวว่า สำหรับการสั่งย้าย 4 เจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ประกอบด้วย นายเกษม ลือฤทธิ์ หน.หน่วยพิทักษ์เขามะเร็ว (หน.เขาดอกไม้-อช.แก่งกระจาน)นายไพฑูรย์ แช่มเทศ (แก่งกระจาน) นายกฤษณพงศ์ แช่มเทศ (ลาออก) นายบุญแทน บุษราคัม (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพรฯ) ซึ่งย้ายเข้ามาส่วนกลางกรมอุทยานฯ 1 คน จ.สุราษฎร์ธานี 1 คน และนครสวรรค์ 1 คน
ส่วนกรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีต หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) และอยู่ในชุดจับกุมบิลลี่ในปี 2557 นั้น นายธัญญา กล่าวว่า เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ตนโยกย้ายเป็นเฉพาะที่อยู่ในอำนาจอธิบดีเท่านั้น แม้จะมีการสั่งโยกย้ายแต่ถือว่าทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะดีเอสไอยังไม่ได้ชี้ชัดว่ามีใครเกี่ยวข้อง หรือผิดบ้าง ซึ่งอยากให้ดีเอสไอทำหนังสือมาให้ชัดๆ ว่าใครผิด ใครเกี่ยวข้องจะได้ตั้งกรรมการตรวจสอบได้
ด้าน นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน กล่าวว่า เบื้องต้นไม่ทราบเรื่องและยังไม่เห็นหนังสือคำสั่ง เพราะอาจต้องผ่านระบบส่วนกลางก่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน คือ นายเกษม และนายไพฑูรย์ ก็ยังไม่ทราบว่าถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการในพื้นที่อื่น
ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายมานะ ได้เรียกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มารับมอบแนวทางการทำงาน หลังถูกสังคมจับจ้อง โดยให้กำลังใจพร้อมเน้นย้ำให้ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องคนอยู่ร่วมกับป่า
ทางด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเก็บรวบรวบพยานหลักฐานมาตั้งแต่เกิดเหตุ แต่อาจไม่ได้เป็นข่าว รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่ในคดีเดิมเพื่อดูความเชื่อมโยงว่าส่วนใดบ้างที่ขาดหายไป ส่วนพยานหลักฐานบุคคลมีอยู่บางส่วนแล้วและกำลังหาเพิ่มเติม หากใครมีเบาะแสให้แจ้งมาได้ที่สายด่วนดีเอสไอ 1202 โดยเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลเป็นความลับ อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นในทุกส่วนๆ แต่ไม่ได้แถลงสังคมให้รับทราบ เนื่องจากเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ระบุว่า ที่ผ่านมา คนในพื้นที่ไม่เคยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่ทำคดีเลย อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บข้อมูลในหลายรูปแบบ มีการแผงตัวเข้าไปและเข้าพื้นที่มาอย่างต่อ เนื่อง ทั้งเข้าไปในรูปแบบชาวบ้านเพื่อเก็บข้อมูลจากคนในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงกับข้อมูลเดิมที่เคยมีอยู่แล้ว
สำหรับกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ระบุว่า จุดที่มีการทิ้งถังน้ำมันและกระดูกบิลลี่ไม่ใช่พื้นที่ปิดและการให้ข่าวของดีเอสไอกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ไม่ขอตอบโต้ในเรื่องนี้ แต่จะขอให้ดูตามพยานหลักฐานที่จะปรากฏ เพราะการทำคดีต้องพิสูจน์กันตามพยานหลักฐานและมีผลพิสูจน์ทางดีเอ็นเอที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยหลักการในการทำคดีต่างๆ มีพยาน 3 ส่วนคือ พยานเอกสาร พยานบุคคลและพยานวัตถุที่จะนำไปสู่การระบุตัวผู้กระทำผิด ซึ่งดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด
ส่วนจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะการทำคดีดีเอสไอจะทำในรูปแบบคณะกรรมการมีหลายฝ่ายเข้าร่วม ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมีที่ปรึกษาเป็นอัยการฝ่ายสอบสวน ดังนั้นการจะทำอะไรแต่ละอย่างไม่ได้ทำเพียงหน่วยเดียวแต่จะทำในรูปคณะกรรมการทั้งหมดทุกขั้นตอน หากเป็นเรื่องไม่จริงคณะกรรมการก็ไม่มีทางเซ็นยินยอมซึ่งทุกตอนขั้นตอนการทำงานของดีเอสไอ ตรวจสอบได้
“จริงๆ พยานหลักฐานมีอยู่แล้วแต่ต้องการให้มีความรอบคอบเพิ่มขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็สั่งการให้ทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอเวลาอีก 1 เดือนตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือ คาดว่าภายใน 2-3 เดือนจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ แต่ระหว่างที่หลักฐานที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์จะยังไม่มีการออกหมายจับ” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี