ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดี ครอบครัว‘บิลลี่’ฟ้องกรมอุทยานฯ เรียกค่าเสียหายกว่า 44 ล้าน

ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดี ครอบครัว‘บิลลี่’ฟ้องกรมอุทยานฯ เรียกค่าเสียหายกว่า 44 ล้าน

วันศุกร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 16.37 น.

ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดี"บิลลี่" ที่เมียกับพวกยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 44 ล้าน ศาลระบุให้รอผลคดีอาญาถึงที่สุดก่อน จึงนำคดีแพ่งขึ้นมาพิจารณาใหม่

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คดีดำ พ1459/2567 ที่ นางไพเราะจี รักจงเจริญ ภรรยา นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก - บางกลอย จ.เพชรบุรี กับพวกรวม 7 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นจำเลย ความผิดฐานละเมิด ตาม พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ที่นางไพเราะจี กับพวก นำคดีมายื่นฟ้องต่อศาล เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567


กรณีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ได้กระทำการละเมิดสิทธิในชีวิตและเสรีภาพและเสรีภาพของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ โดยจับกุมและควบคุมตัวนายพอละจี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์ทั้ง 7 ได้รับความเสียหายทั้งทางทรัพย์สินและจิตใจ ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 26,732,340 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 (วันกระทำละเมิด) ถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 เป็นเวลา 6 ปี 11 เดือน คิดดอกเบี้ยเป็น 13,867,385 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 2 ปี 11 เดือน คิดเป็นเงิน 3,898,455 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 44,498,155 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป (อ่านข่าวประกอบ : ศาลแพ่งรับคดี ครอบครัวบิลลี่ ฟ้องกรมอุทยานฯ เรียกค่าชดใช้รวมดอกกว่า 44 ล้าน)

อย่างไรก็ตาม วันนี้ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคดีอาญาก่อน ขณะที่ทนายโจทก์ทั้ง 7 แถลงว่ามีพยานที่จะสืบในวันนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ และเป็นพยานที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญแห่งคดี ส่วนทนายจำเลยแถลงคัดค้านว่าพยานดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นแห่งคดีนี้ จึงเห็นควรงดสืบพยานในวันนี้ และเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 การพิจารณาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงในคดีอาญา โจทก์ทั้ง 7 ฟ้องจำเลยในเหตุความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อคดีอาญายังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่สามารถพิจารณาคดีนี้ได้ จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคำพิพากษาคดีอาญาถึงที่สุด แล้วจึงยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาจำคุก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเวลา 3 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีที่นายชัยวัฒน์ ไม่นำตัวนายบิลลี่ และขวดน้ำผึ้งป่าของกลาง ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ให้ยกฟ้อง และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top