"พปชร.นครศรีธรรมราช"ร่วมรับฟังปัญหาชาวบ้านกรณีไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ก่อนสรุปข้อเสนอ4แนวทางแก้ไขปัญหาให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2562 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เข้าร่วมกิจกรรมจิบน้ำชา-เสวนา "มุมเมืองคอน มองป่าพรุควนเคร็ง" เพื่อค้นหาปัญหาและแนวทางการฟื้นฟูป่าพรุควนเคร็ง โดยมี นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 พรรค พปชร.เจ้าของพื้นที่ และผู้นำชุมชนในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อ.ชะอวด อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทรอ อ.ร่อนพิบูลย์ ร่วมหารือ
นายสัณหพจน์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการจัดเสวนาหารือการแก้ไขปัญหาป่าพรุควนเคร็ง ร่วมกับแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหาข้อสรูปของปัญหา และผลกระทบที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับ โดยสาเหตุหลักๆ มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นนั้นมาจากนายทุนได้จ้างวานกลุ่มบุคคล ซึ่งทำให้พื้นที่ป่าพรุเสียหายไปกว่า 3.9 หมื่นไร่หรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ แกนนำชาวบ้านได้เสนอวิธีการแก้ไขปัญหา ด้วยการฟื้นฟูป่าพรุ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ร่วมกันระหว่าง ชาวบ้านในพื้นที่อย่างยั่งยืน รวมไปถึงการกำหนดเขตป่าและพื้นที่ทำกินแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ด้วยการบูรณาการร่วมกับของหน่วยงานรัฐและชาวบ้านในพื้นที่คือการเร่งศึกษาการจัดทำโครงการแบ่งเขตป่าและชุมชนด้วยคลองกั้นระบายน้ำจำนวนประมาณ 230 สายคลอง โดยขณะนี้ยังขาดในเรื่องของงบประมาณในการดำเนินโครงการ
สำหรับโครงการแบ่งเขตแนวดังกล่าวจะทำให้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากที่ขณะนี้ปริมาณรับน้ำของลุ่มน้ำปากพนังมีน้ำอยู่เพียง 80 ล้าน ลบ.ม.เพิ่มขึ้นเต็มศักยภาพที่จำนวน 240 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภค บริโภคในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง
นอกจากนี้ ที่ประชุมเวทีเสวนา ได้ข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำเสนอให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในวาระที่นายกฯ จะลงพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง เพื่อรับฟังปัญหาใน 4 ประเด็นด้วยกัน คือ 1.การกำหนดพื้นที่ระหว่างเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตพื้นที่อนุรักษ์ และเขตพื้นที่ทำกินของชาวบ้านให้ชัดเจน 2.ปลดล็อคเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆได้เช่น การขาย การจำนองที่ดิน 3.การกักเก็บน้ำเพื่อเพื่อใช้ในที่เกษตร และเป็นแหล่งน้ำของชาวบ้านในพื้นที่ และ 4.การส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่
ด้าน นายถวิล สุขสวัสดิ์ แกนนำชาวบ้าน ต.เคร็ง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวของคนนอกพื้นที่ เข้ามาเพื่อหาประโยชน์ เมื่อหมดทางที่จะหาประโยชน์แล้วคนพวกนี้ก็ออกไป โดยเรื่องไฟไหม้ป่าพรุ ชาวบ้านก็บอกว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนทำ เพราะต้องการงบประมาณมาใช้ในแต่ละปี ขณะที่เจ้าหน้าที่เองก็บอกว่าชาวบ้านเป็นคนเผา เพราะต้องการที่ดินไปใช้ประโยชน์
"ที่ชาวบ้านกลายเป็นจำเลยเพราะบางคนอาจจุดไฟเผาป่าพรุ เพราะต้องการให้กระจูด พืชซึ่งวัตถุดิบนำมาใช้ทำหัตถกรรมขึ้นมาใหม่ หรืออาจจะจะเผาเพื่อให้หญ้าที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ขึ้นมาใหม่ หรือว่าจุดป่าพรุเพื่อเอาที่ไปขายให้คนนอกพื้นที่ นี่คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่มักจะโยนบาปให้กับชาวบ้าน" นายถวิล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 กันยายน 2562นี้ ชาวบ้านต้องการนำเสนอเรื่องราวของปัญหาที่แท้จริงให้นายกฯ ได้รับทราบ การเข้าถึงนายกฯ เพราะหากนายกฯ รับฟังการรายงานของหน่วยงานรัฐ ซึ่งมักจะนำเสนอแต่เรื่องดีๆ โดยที่ไม่ได้นำเสนอข้อมูลของปัญหาที่แท้จริง การแก้ปัญหาที่ตรงกับความต้องการของชาวบ้านก็จะเกิดขึ้นได้ยาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี