ระทึกกลางเมืองสงขลา! ตร.เข้าระงับเหตุผัวเมียวิวาท ถูกยิงใส่เลยยิงสวนโดนผัวดับ

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 กันยายน 2562 เกิดเหตุระทึกขึ้นกลางเมืองสงขลา เมื่อตำรวจได้รับแจ้งให้ไประงับเหตุผัวเมียทะเลาะกันภายในบ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนเตาอิฐ เขตเทศบาลเมืองสงขลา 

ทางเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจรถจักรยานยนต์ชุดอินทรีย์ จึงเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อขับไปถึงปากซอย2/1 ปรากฏว่าได้มีนายอนุรักษ์ ทองคำ อายุ 36 ปี ขับรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขคน 112 สงขลา สวนออกมาโดยมีภรรยานั่งซ้อนท้ายในสภาพที่เลือดอาบหน้าเพราะถูกทำร้าย และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อตำรวจได้พยายามขับรถตามไประงับเหตุ แต่กลับถูกนายอนุรักษ์ ชักอาวุธปืนคาร์บินออกมายิงใส่ตำรวจทันที 1 นัด กระสุนปืนถูก ส.ต.ต.อรรถชัย นพประดิษฐ์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสงขลา ซึ่งนั่งซ้อนท้าย กระสุนเข้าที่บริเวณด้านหลังเพราะพยายามเอี้ยวตัวหลบ แต่โชคดีที่ใส่เสื้อเกราะกันกระสุน จึงปลอดภัย แต่ทำให้รถจักรยานยนต์ของตำรวจที่ขับซ้อนท้ายกันมา 2 นายล้มลง   

อย่างไรก็ตาม แม้ ส.ต.ต.อรรถชัย จะถูกยิง แต่ได้ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า 2 นัด เพื่อให้นายอนุรักษ์ ยอมวางอาวุธปืน แต่นายอนุรักษ์ ยังหันปากกระบอกปืนมายังตำรวจ จึงถูกยิงสวนไปอีก 1 นัด กระสุนถูกเข้าที่หน้าท้องนายอนุรักษ์  ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางถนนใกล้ๆรถของตำรวจ ส่วนนางสาวกันยาวีร์ เขียวชะอุ่ม ภรรยานายอนุรักษ์ ซึ่งถูกสามีตีด้วยด้ามปืนมาก่อนแล้ว บาดเจ็บเช่นกัน ทั้ง 2 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา แต่นายอนุรักษ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอาวุธปืนคาร์บินตกอยู่ในที่เกิดตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงพร้อมลูกสาวที่กำลังกลับจากโรงเรียน และมาเจอเหตุการณ์ได้จอดและทิ้งรถวิ่งหนีตายไปหลบอยู่ข้างถนนเพื่อความปลอดภัย และจากการตรวจสอบนายอนุรักษ์ พบว่ามีประวัติเคยต้องคดีพยายามฆ่าและเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำเขาบินมาเพียงไม่กี่เดือน

หลังเกิดเหตุทาง ร.ต.อ.ณัฐกร แสงจันทร์ ร้อยเวรสถานีตำรวจเมืองสงขลา และ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์  ผกก.สภ.เมืองสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุโดยพบปลอกกระสุนปืนทั้งของคนร้ายและของตำรวจตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงได้เก็บไปตรวจสอบ  ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดครั้งหนึ่ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายแม้ว่าจากเหตุการณ์คนร้ายจะเป็นฝ่ายยิงตำรวจก่อนก็ตาม