เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจหลายสถานที่ในพื้นที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย ซึ่งพบว่าบางจุดมีประชาชนเดินทางออกมาให้กำลังใจหลังจากต้องเผชิญกับเรื่องการเมืองมาอย่างหนัก 

ทั้งนี้ช่วงบ่ายวันนี้ ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านศิริราษฎร์ หมู่ 14 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย เพื่อตรวจดูการยึดพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล แปลงเลขที่ 146 โดยมีนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) นำคณะดูที่ดินที่ตรวจยึดคืนดังกล่าวซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 509 ไร่ โดยทาง ส.ป.ก.ได้ยึดคืนตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 เพื่อนำไปจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนหรือกลุ่มบุคคลหรือสถาบันเกษตรกรในรูปของการให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ให้เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะราย (รูปแบบสหกรณ์)

ทั้งนี้ที่ดินทั้ง 509 ไร่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 8,14,16 ต.แม่ยาว ซึ่งถูกพื้นที่ประกาศเขตปฏิรูปที่ดินโครงการไม้สัก หมายเลข 34 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2542 เดิมมีนายทุนครอบครอง โดยซื้อต่อจากราษฎรที่ถือครองอยู่จากนั้นำมาปลูกยางพาราและพืชอื่นๆ ต่อมาได้มีกลุ่มราษฎรในพื้นที่ก็เข้าบุกรุกเพื่อทำไร่จึงเกิดความขัดแย้งกันขึ้นถึงขั้นร้องเรียนไปยังกองทัพภาคที่ 3 และศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย จึงได้มีการแจ้งให้สำนักงาน ส.ป.ก.เชียงราย เข้าตรวจสอบพบว่ามีนายทุนถือครองแต่ไม่มีเอกสารสิทธิโดยมีเพียงสัญญาซื้อขายเท่านั้น ดังนั้น คสช.จึงใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฯ ยึดคืนพื้นที่เมื่พื่อนำมาดำเนินการจัดที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังเข้าพบชาวบ้านที่ไปรอต้อนรับประมาณ 200 คน พร้อมกล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ในนโยบายหลักข้อที่ 10 คือการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในข้อที่ 10.2 ปรับปรุงระบบที่ดินทำกินและลดความเหลื่อมล้ำด้านการถือครองที่ดินโดยจัดสรรที่ดินและที่อยู่อาศัยให้แก่ราษฎรที่ยากไร้และเกษตรกรตามหลักการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ การกระจายสิทธิการถือครองให้แก่ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รุกล้ำและมีมาตรการป้องกันและเปลี่ยนมือไปอยู่ในครอบครองของผู้ที่มิใช้เกษตรกรและผู้ยากจน จัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการที่ดิน จัดทำหลักฐานการถือครองที่ดินของรัฐทุกประเภท จัดทำแผนที่แสดงเนวเขตที่ดินทับซ้อนและแนวเขตพื้นที่ป่าที่ไม่ชัดเจน เพื่อลดข้อขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ

"ตามนโยบายดังกล่าวทำให้ตนได้เร่งรัดให้ ส.ป.ก.เร่งดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขต ส.ป.ก.4-01 ให้กับเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับทั่วประเทศโดยในเดือน ต.ค.นี้ ก็จะดำเนินการมอบเอกสาร ส.ป.ก.4-01 พร้อมกันทั้งประเทศซึ่งตนจะเข้าร่วมการมอบให้กับเกษตรกรดังกล่าวด้วย นอกจากนี้จะมอบหมายใหัเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรและผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มอบโดยขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดวันที่มความพร้อมกันทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้จากข้อมูลปี 2562 พบว่าสามารถมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรทั่วประเทศได้จำนวน 62 จังหวัด จำนวน 14,385 ราย 15,864 แปลง 90,321 ไร่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์คือได้เข้าถึงที่ดินทำกินโดยถูกต้องตามกฎหมาย ไดรับโอกาสในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน แหล่งน้ำ ฯลฯ ได้รับการพัฒนาส่งเสริมอาชีพ ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งกองทุน ส.ป.ก.และ ธ.ก.ส.และที่ดินดังกล่าวจะเป็นมรดกถึงลูกหลานตราบเท่าที่ยังทำอาชีพเกษตรกรรมและไม่มีการขายที่ดินให้กับบุคคลอื่นด้วยต่อไป" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว.