เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมืองอุบลราชธานีอยู่ที่ 4,920 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ (15 กันยายน) ซึ่งอยู่ที่ 5,130 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำสูง 10.73 เมตรลดลงจากเมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่ที่ 10.88 เมตร ซึ่งลดลง 7 เซนติเมตร
ขณะนี้ระดับน้ำฝั่งอำเภอเมืองอุบลราชธานี ต่ำกว่าตลิ่ง 12 เซนติเมตรแล้ว ส่วนฝั่งอำเภอวารินชำราบ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำล้นตลิ่งอยู่ กว่า 3.73 เมตร ซึ่งสถานการณ์น้ำอยู่ในช่วงขาลงและกลับสู่ตลิ่งวันที่29 ก.ย.นี้
ทั้งนี้การระบายน้ำลงแม่น้ำโขง ทำได้เร็วขึ้นเป็นผลจากการเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำ ซึ่งติดตั้งบริเวณแก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร 60 เครื่อง ส่วนที่อำเภอโขงเจียมซึ่งแม่น้ำมูลจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ตรงจุดนี้สั่งการให้ติดตั้งตามแผน 200 เครื่อง รวม 260 เครื่อง หลังจากได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินดูเพื่อหาพื้นที่ติดตั้งเพิ่ม พบว่าสะพานพิบูลมังสาหาร ยังมีช่องว่างติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำได้อีก 100 เครื่อง
ขณะนี้เดินเครื่องแล้ว 150 เครื่อง อีก 50 เครื่อง กำลังเร่งติดตั้ง อีกทั้งช่วงนี้ระดับน้ำแม่น้ำโขงยังต่ำ ทำให้การดันน้ำออกปากแม่น้ำมูลได้สะดวก เพราะระดับแม่น้ำโขงต่ำกว่าหน้าเขื่อนปากมูลถึง 2.32 เมตร ลดต่ำลงจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 2.07 เมตร
ซึ่งเมื่อเดินเครื่องผลักดันน้ำได้ 260 เครื่องตามแผนจะผลักดันน้ำออกไปได้เร็วขึ้น สามารถลดความเดือดร้อนของประชาชนให้น้อยที่สุด ตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำให้เร่งดำเนินการให้คลี่คลายอุทกภัยภาคอีสาน แนวลุ่มน้ำชี-มูล ให้กลับสู่ปกติทุกพื้นที่ก่อนสิ้นเดือนนี้
นายทองเปลว กล่าวถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาว่า ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากการติดตามสถานการณ์น้ำเหนือจากสถานีวัดน้ำ C 2 จังหวัดนครสวรรค์ลดลงตามลำดับ ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้อาจปรับลดการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงอีก 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็น 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ขณะนี้พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณคลองโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอเสนาและผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำอยู่ที่ระดับตลิ่ง ไม่เอ่อล้นท่วมพื้นที่นอกคันกั้นน้ำแล้ว เมื่อพรุ่งนี้ปรับลดลงอีกน้ำจะต่ำกว่าตลิ่ง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จึงสบายใจได้
สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้วมี 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ น่าน สุโขทัย ลำปาง อุตรดิตถ์ พิจิตร แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ขอนแก่น มุกดาหาร สระแก้ว ชุมพร และระนอง ส่วนที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมรวม 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สกลนคร นครพนม ศรีสะเกษ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และตราด
โดยจังหวัดตราดนั้นเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากและสะสมอย่างต่อเนื่อง วัดได้ 172 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอเกาะช้าง หลายจุดในเขตเทศบาลตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง ซึ่งกรมชลประทานได้สนับสนุนเครื่องจักร-เครื่องมือ แก่ทางจังหวัดและท้องถิ่นเร่งระบายน้ำออกโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี