สำนักงานศาลยุติธรรมลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมการเชื่อมโยงข้อมูลสารบบคดีกระบวนการยุติธรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมด้วย นายเชิดศักดิ์ หิรัญสิริสมบัติ รองอัยการสูงสุด และพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลสารบบคดีกระบวนการยุติธรรมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในการยื่นฟ้องคดีและพิจารณาคดีอาญา ตั้งแต่ชั้นตำรวจ อัยการและศาล เพื่อลดระยะเวลาและความซ้ำซ้อนในการบันทึกข้อมูลของเจ้าหน้าที่และยังทำให้กระบวนการยื่นฟ้องคดีและการพิจารณาคดี พิพากษาคดีแล้วเสร็จด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า เริ่มจากเมื่อมีการฟ้องคดีกับ ศาลแขวงหรือศาลจังหวัดที่มีอำนาจพิจารณาคดีโดยเฉพาะคดีฟ้องด้วยวาจา เจ้าหน้าที่จะต้องบันทึกข้อมูลตั้งต้นที่อัยการโดยตำรวจนำมาฟ้องต่อศาล เช่น ข้อมูลฟ้องทั่วไป ข้อมูลจำเลย บันทึกการจับกุม ฯลฯ ทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลาในการบันทึกข้อมูลเป็นจำนวนมากและทำให้คดีที่ควรจะตัดสินได้อย่างรวดเร็วกลับต้องเสียเวลาในการรอการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ มีผลทำให้จำเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศาล และผู้พิพากษาเวรชี้ ต้องรอนาน ทั้งที่ข้อมูลทั้งหมดมาจากอัยการเป็นผู้บันทึกข้อมูลแล้วพิมพ์ออกจากระบบเพื่อนำมาฟ้องต่อศาล
ดังนั้นสำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติศึกษาการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในการยื่นฟ้องคดีและการพิจารณาคดีอาญา ตั้งแต่ชั้นตำรวจ อัยการและศาล โดยการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศจากระบบ Crimes ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตำรวจสามารถบันทึกข้อมูลทางคดีเข้าสู่ระบบ และเชื่อมโยงข้อมูลไปยังระบบและฐานข้อมูลของสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อที่อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง
จากนั้นข้อมูลทางคดีจะถูกส่งต่อเข้ามายังระบบและฐานข้อมูลศาล ผ่านเทคโนโลยี Web Service และคำฟ้องของอัยการก็จะถูกส่งมายังศาล ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 3 หน่วยงานนี้ นอกจากจะลดระยะเวลาและความซ้ำซ้อนในการบันทึกข้อมูลแล้ว ยังทำให้กระบวนการยื่นฟ้องคดีและการพิจารณาคดี พิพากษาคดี แล้วเสร็จด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ อันเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคดีทางอาญาที่ฟ้องด้วยวาจาซึ่งเป็นคดีที่มีอัตราโทษไม่สูง
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า การเชื่อมโยงข้อมูลสารบบคดีกระบวนการยุติธรรมโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ในการยื่นฟ้องคดีและพิจารณาคดีอาญา จะดำเนินการพร้อมกันในศาลชั้นต้น ศาลจังหวัดและศาลแขวงทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประธานศาลฎีกาเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการคดีและเพื่อให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมรวดเร็วขึ้น เพื่อมุ่งสู่การบริการในลักษณะระบบศาลดิจิทัล (D-Court) ในปี พ.ศ.2563
นอกจากนี้สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ร่วมหารือแนวทางด้านเทคนิคในการใช้ข้อมูลและพัฒนาปรับปรุงระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี