การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2512 มีภารกิจหลักคือจัดหาพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชนโดยผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และผู้ใช้พลังงานไฟฟ้ารายอื่นตามที่กฎหมายกำหนด หรือโดยสรุปคือเพื่อดูแลความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย อย่างไรก็ตามกฟผ. ยังมีหน้าที่สำคัญเพิ่มเติม คือ “การให้ความรู้” ด้านพลังงานกับเยาวชนและประชาชนด้วย
ปัจจุบัน กฟผ. ได้ดำเนินการจัดตั้ง“ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.” ในหลายจังหวัด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.สำนักงานกลาง (EGAT Learning center)”ตั้งอยู่ที่ย่านสะพานพระราม 7 อ.บางกรวยจ.นนทบุรี โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศูนย์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2562
ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.สำนักงานกลาง มีการจัดแสดงนิทรรศการไฟฟ้า 2 ส่วน คือ “นิทรรศการหมุนเวียน” จะมีนิทรรศการสำคัญผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดแสดง กับ “นิทรรศการถาวร” มี 7 โซน ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องแหล่งพลังงานเป็นหลัก ได้แก่ 1.โซน“จุดประกาย” เป็นจุดลงทะเบียนและรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะ RFID เพื่อแปลงร่างเป็น AVATAR ผจญภัยในโลกพลังงานไฟฟ้า และนำไปเล่นกิจกรรมในโซนอื่นๆ เพื่อสะสมคะแนน
2.โซน “จากแสงแรกสู่แสงนิรันดร์”ที่แค่ก้าวเข้าไปในห้องผู้ชม ก็จะสัมผัสได้ถึงพลังงาน และเมื่อก้าวเดินจะมีคลื่นน้ำปรากฏ ห้องนี้เป็นห้องภาพยนตร์ 4 มิติ (4D) ที่จะพาผู้ชมสัมผัสประสบการณ์แห่งแสงแรกกับการ์ตูนแอนิเมชั่นสนุกๆพาย้อนกลับไปในยุคที่ประเทศไทยยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก่อนมาสู่ยุคปัจจุบันและก้าวข้ามมิติเวลาไปสู่แสงแห่งอนาคต เพื่อเรียนรู้เรื่องการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติและเทคโนโลยีอย่างสมดุล
3.โซน “คืนสู่สมดุล” ที่จะพาไปสัมผัสชีวิตในอนาคตที่มีความสมดุลระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติและเทคโนโลยี ผู้ชมจะได้ทดลองผลิตไฟฟ้าด้วยมือของตนเอง ด้วยการเปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า เล่นเกมวางผังเมือง ร่วมสร้างบ้านและเมืองอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงาน และเมื่อเดินออกจากโซนจะเป็นส่วนของการปลูกต้นไม้โดยใช้แสง LED ในพื้นที่จำกัด การปลูกต้นไม้บนดาดฟ้า ซึ่งเหมาะกับสังคมปัจจุบันที่มองไปก็เห็นแต่ตึกสูงเต็มไปหมด เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันของธรรมชาติ และเทคโนโลยี โดยมีมนุษย์เป็นแรงขับเคลื่อน
4.โซน “สายน้ำแห่งความภูมิใจ” เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานศิลปะ เกี่ยวกับการดูแลป่าต้นน้ำ และผู้คนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ปลายน้ำที่กรุงเทพฯ สมกับคำว่า น้ำ คือ ชีวิต การดูแลชีวิตนั้นสำคัญ การดูแลต้นกำเนิดแห่งชีวิตก็ไม่ต่างกัน 5.โซน “นวัตกรรมเพื่อชีวิต” เป็น
ห้องที่สนุกที่สุด น่าสนใจสุด และได้ความรู้สุดเพราะเป็นเกมให้เล่นพร้อมกับให้ความรู้ควบคู่กันไปด้วยภาพเคลื่อนไหวตลอดทางเดินตั้งแต่การสำรวจเส้นทาง Timelineประวัติศาสตร์การเรียนรู้ภารกิจการไฟฟ้าไทย คู่ขนานกับความเป็นไปของสังคมไทยและเหตุการณ์สำคัญของโลก
6.โซน “โลกที่ยั่งยืน” ใครที่ชอบแข่งขันต้องไม่พลาดกับการสำรวจโลกพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ผ่านลูกโลก SPHEREที่รวบรวมประเทศโดดเด่นในการบริหารจัดการด้านพลังงาน และการส่งไฟฟ้าระหว่างประเทศอาเซียน และยังมีเกมให้เล่นโดยผู้ชมรับบทเป็นผู้ควบคุมกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อเลือกเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และ 7.โซน “แสงนิรันดร์”เป็นจุดประมวลผลการเรียนรู้ที่ผู้ชมได้ร่วมกิจกรรมผ่านทางการ Scan สายรัดข้อมือโดยข้อมูลจะถูกส่งข้อมูลกลับไปยังอีเมลที่ผู้ชมได้ลงทะเบียนไว้
สำหรับศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรี เปิดทำการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-4368952-3 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.egat.co.th/learningcenterนอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้แห่งอื่นๆ ของกฟผ. ที่น่าสนใจในหลายจังหวัด อาทิ พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ)เฉลิมพระเกียรติ จ.ลำปาง, ศูนย์การเรียนรู้ราชานุรักษ์ กฟผ. เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ จ.สงขลา, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และในอนาคตจะมีการเปิดเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง จ.นครราชสีมา, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ และศูนย์การเรียนรู้โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ กฟผ.แม่ฮ่องสอนจ.แม่ฮ่องสอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี