22 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 233 ม.1 ต.หนองทะเล อ.เมือง ว่าลูกสาวชื่อนางสาววรรณา ศรียาไพ อายุ 37 ปี ถูกทำร้ายด้วยการจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เหตุเกิดเมื่อปี 2545 แต่คดีไม่คืบจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนางกอลิเย๊าะ กำลังเฝ้าดูแลลูกสาวพิการนอนอยู่บนเก้าอี้นอน สภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตามแขนขา ด้านขวามีรอยแผลไฟไหม้ นิ้วมือเท้าหงิกงอ พูดจาไม่ได้
นางกอลิเย๊าะ เล่าว่า ตนได้ส่งลูกสาว คือนางสาววรรณา ไปเรียนที่ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยขณะที่ลูกสาวของตน เรียนอยู่ชั้น ปวส.2 เทอม มีอายุแค่ 20 ปี ลูกสาวของตนถูกคนร้ายทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม โดยใช้ของแข็งตีเข้าที่กกหูซ้าย และจุดไฟเผาทั้งเป็น เหตุเกิดภายในหอพักแห่งหนึ่ง หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช ผ่านไป 3 วัน เพื่อนของลูกสาวไปพบนอนสลบอยู่ในห้องเช่า สภาพถูกไฟเผา และถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่กกหูซ้าย พบทรัพย์สินโทรศัพท์ และเงินจำนวนหนึ่งหายไป จึงได้แจ้ง จนท.เข้าตรวจสอบละช่วยกันนำส่ง รพ.มหาราช จ.นครศรีธรรมราช โดยเหตุการณ์เกิดวันที่ 16 มิถุนายน 2545
แต่หลังจากที่เกิดเรื่องพบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานล่าช้ามาก จนในปี 46 ตนได้เข้าร้องเรียนกับ ผวจ.นครศรีธรรมราช ในขณะนั้น และทาง ผวจ.ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ ริยาพันธ์ ผกก.สภ.เมือง นครศรีธรรมราช ในขณะนั้น ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าผู้ที่ลงมือทำรายลูกสาวก็คือนายคำรณ หรือ หนิด สมญาพิทักษ์ ซึ่งเป็นคนรักเก่าของลูกสาว ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน หลังก่อเหตุ ได้หลบหนีไป ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ คดีอาญาที่ 141/2546 และทำการจับกุมตัวนายคำรณ ข้อกล่าวหา พยายามฆ่าและปล้นทรัพย์ เบื้องต้นนายคำรณ ได้ให้การปฎิเสธ และได้ประกันตัว ก่อนที่จะหลบหนี จนถึงปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ ก็ยังไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้
สำหรับคดีของลูกสาว ตนยังเชื่อว่าทางจ้าหน้าที่ตำรวจมีการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด เพราะหลังจากที่ตนได้เข้าแจ้งความ มี พ.ต.ต.ประทิน เขียวฤทธิ์ (ยศตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมือง นครศรีธรรมราช รับผิดชอบคดี โดยได้รับแจ้งเหตุ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.45 แต่ได้ลงบันทึกประจำวันคำร้องทุกข์ วันที่ 30 ม.ค.46 ซึ่งก็ส่อไปในทางมิชอบแล้ว ซึ่งทราบต่อมาว่าทางผู้บังคับบัญชา ได้สั่งสอบสวน ทางวินัยแล้วด้วย
นางกอลิเย๊าะ กล่าวด้วยว่า เหตุเกิดเมื่อ ปี 45 และขณะนี้ คดีก็ใกล้จะหมดอายุความแล้ว เพราะเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 20 ปี แต่คนร้ายยังหลบหนีลอยนวลและอีกไม่ถึง 3 ปี คดีก็จะขาดอายุความ ตนเกรงว่า หากไม่ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ ก็กลัวว่าคดีจะเงียบ เพราะที่ผ่าน เกือบ 20 ปี ตนขึ้นลงโรงพักและไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างแต่สุดท้ายคดีก็เงียบ
'ทุกวันนี้ตนทุกข์ใจมาก เพราะทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา ก็เห็นสภาพลูกสาวต้องนอนพิการติดเตียง แต่คนทำผิดยังลอยนวล จึงขอวอนให้ ทางเจ้าหน้าที่ ตร.ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วด้วย' นางกอลิเย๊าะ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี