‘ไบโอเมทริกซ์’เจ๋ง! ตม.จับต่างชาติติดบัญชีดำ รวบรัสเซียลักทรัพย์อ้างทำตามRussian Rules
27 กันยายน 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 (ผบก.ตม.6) , พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต แถลงผลการจับกุมคดีคนร้ายต่างชาติรายสำคัญ
คดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต (ตม.จว.ภูเก็ต) ได้ทำการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) พบคนต่างด้าว 2 ราย เป็นบุคคลซึ่งถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้าม หรือแบล็คลิสต์ ห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไว้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวหลังจากที่ถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร บุคคลเหล่านั้นได้เปลี่ยนชื่อตัวบางส่วน และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นได้เดินทางกลับเขามาในประเทศไทยอีกครั้ง เป็นสัญชาติรัสเซีย 1 ราย และสัญชาติอิรัก 1 ราย
ทั้งนี้ ประกอบด้วย นางสาวจูเลีย สัญชาติรัสเซีย เดิมชื่อ MS.Yulia เคยเปลี่ยนชื่อ และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” เมื่อปี 2555 มีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม ติดแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ได้เปลี่ยนชื่อของตน และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (NON-90) อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 โดยนางสาวจูเลีย ถูกดำเนินคดีที่ สภ.ป่าตอง และถูกส่งตัวมาที่ ตม.จว.ภูเก็ต หลังจากคดีสิ้นสุด ในวันที่ 19 กันยายน 2562 ตม.จว.ภูเก็ต จึงทำการตรวจสอบบุคคลดังกล่าวด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้ามไว้
อีกราย คือ นายอาลี สัญชาติอิรัก เดิมชื่อ MR.Alaa หรือนายอาลา เคยเปลี่ยนชื่อ และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดฐาน “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” หรือโอเวอร์สเตย์ 1,272 วัน เมื่อปี 2561 มีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม ติดแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ 10 ปี ตั้งแต่ ปี 2561 ถึงปี 2571 ได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลของตนเองบางส่วน และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ตเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (TR 60) อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ตม.จว.ภูเก็ต ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่บริเวณร้านตัดผมในซอยแสนสบาย ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้เชิญตัวมาทำการตรวจสอบด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้ามไว้
จากการซักถามปากคำเบื้องต้น และให้ดูหลักฐานการขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้าม ทั้ง 2 ราย จึงให้การรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ตรวจสอบพบจากระบบไบโอเมทริกซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต จึงได้ทำการเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติจำนวน 2 ราย จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวและดำเนินการส่งกลับออกนอกประเทศต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต ได้ทำการจับกุมตัวนายมัคซิม อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล 258/2562 ลงวันที่ 16 กันยายน 2562 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” โดยมีพฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 20.30 น. นายมัคซิม ได้ลักนาฬิกาข้อมือซึ่งแสดงโชว์อยู่ที่บริเวณห้างเซนทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ไป 1 เรือน จากนั้นได้หลบหนีไป
ผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.วิชิต ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต ได้รับประสานจาก สภ.วิชิต ท้องที่เกิดเหตุให้ช่วยทำการสืบสวนเหตุดังกล่าว เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน จนกระทั่งสามารถออกหมายจับ และจับกุมตัวนายมัคซิม ได้ที่บริเวณซอยนาเสือ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในชั้นจับกุมนายมัคซิม ให้การรับสารภาพ โดยได้เขียนให้การเป็นภาษาอังกฤษ มีใจความว่า “Russian Rules กล่าวไว้ว่า ถ้าพบสิ่งของที่ไม่ติดราคา และไม่ได้ปิดล็อคไว้ คนรัสเซียสามารถหยิบไปได้เลย เนื่องจากหมายความถึงว่าของสิ่งนั้นแจกฟรี หรือเป็นของไม่มีเจ้าของ” จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
# ขอบคุณภาพ-ข้อมูล พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.อก.สตม. ปฏิบัติราชการ รองผบก.ตม.1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี