ปิดตำนานแสบ‘แก๊งควาย’ รวบคนสุดท้ายชายผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสี่ยใหญ่‘ตุ๋นเหยื่อ’ตลอด 20 ปี สารภาพวิชามาร‘กำถั่ว’ถูกถ่ายทอดไปอีกกว่า 100 คน ยังไม่หายสาบสูญ
2 ตุลาคม 2562 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) , พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล ,พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง ,พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน ,พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รอง ผกก.2 บก.ป. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัวนายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล อายุ 74 ปี ภูมิลำเนาอยู่ถนนพัฒนา ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 268/2558 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
สืบเนื่องจากพฤติการณ์คดี “แก๊งควาย” ซึ่งมีกลุ่มคนร้ายเกินกว่า 100 คน ที่อาศัยการเล่นพนันกำถั่วในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยนายพังพะกาญจน์ เป็นสมาชิกระดับต้นๆของแก๊ง ให้การว่าการหลอกลวงเหยื่อ 1 ครั้ง จะมีตัวละครทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ 1.คนชักชวนผู้เสียหาย หรือคนจีบ 2.เจ้ามือ หรือคนสอนเล่นกำถั่ว 3.เสี่ย เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ จากต่างประเทศ คือ ผู้ต้องหา 4.เหยื่อ
ส่วนขั้นตอนในการหลอกลวง เริ่มจากคนจีบ จะเป็นคนหาเหยื่อมาให้ โดยแกล้งทำเป็นสนใจเกี่ยวกับธุรกิจหรืองานที่เหยื่อทำอยู่ จากนั้น ก็จะชักชวนเหงื่อให้มาหาที่โรงแรมภายในพื้นที่ เพื่อมาคุยเรื่องธุรกิจกันต่อ เมื่อเหยื่อมาถึงที่โรงแรม จะพบเจ้ามือนั่งรออยู่ในห้องของโรงแรม โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนกับคนจีบ จากนั้นคนจีบจะชวนคุยเรื่องธุรกิจก่อน เมื่อเหยื่อเริ่มตายใจ เจ้ามือ จะเริ่มพูดถึง เสี่ยคนหนึ่งที่ได้เล่นการพนันกำถั่วกับพวกเขาไปเมื่อวานและเสียเงินไปหลายล้าน และกำลังนำเงินจำนวนมากมาแก้มือคืน
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ตัวละคร เสี่ย ก็จะเดินเข้ามาในห้องและเปิดเงินภายในกระเป๋าให้เหยื่อดูว่า ตนนั้นมีเงินจำนวนมากและจะมาเล่นกำถั่วเพื่อแก้มือ ซึ่งความจริงแล้ว เงินในกระเป๋านั้นมีเพียงธนบัตรวางไว้ด้านบนเพียงไม่กี่ใบ เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ ทางเจ้ามือก็จะชักชวนให้เหยื่อร่วมเล่นด้วยและสอนวิธีการเล่นกำถั่วให้
ทั้งนี้ การเล่นกำถั่วจะใช้อุปกรณ์เพียงแค่ 2 อย่าง คือ 1.ถั่ว จะเป็นวัตถุอะไรก็ได้ที่มีลักษณะเป็นเม็ด 2.ฝาครอบลักษณะทึบ เมื่อเริ่มเล่น ทางเจ้ามือจะนำฝาครอบไปครอบถั่วไว้ โดยไม่ต้องนับจำนวน จากนั้น จะนำถั่วออกมาจัดเป็นกลุ่มเรื่อย ๆ กลุ่มละ 6 เม็ด และให้ทางเหยื่อเป็นคนทายว่า เศษที่เหลือนั้นจะเป็นจำนวนคู่ หรือจำนวนคี่ ถ้าหากเหยื่อไม่สนใจทางกลุ่มแก๊งควายก็จะไม่บังคับให้เล่นแต่ถ้าหากเหยื่อเกิดความโลภอยากได้เงิน ทางเจ้ามือก็จะนำ “ชิป” ให้กับเหงื่อเพื่อใช้แทนเงินสด เพื่อแก้ปัญหาหากเหยื่อไม่ได้นำเงินมาและทำให้แก๊งควายไม่ต้องใช้เงินจริงด้วย
เมื่อเริ่มเล่นไปประมาณ 5 เกม แก๊งควายจะให้เหยื่อเป็นคนชนะเกมก่อน เพื่อให้เหยื่อตายใจและอยากเล่นต่อ หลังจากเกมที่ 6 เป็นต้นไป เจ้ามือจะเริ่มโกง โดยให้เสี่ย ชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นเจ้ามือจะแอบหยิบถั่วขึ้นมาหนึ่งเม็ดซ่อนไว้ ในจังหวะทำการเปิดฝาครอบเกมต่อไป เจ้ามือจะแอบใส่ถั่วเม็ดดังกล่าวเข้าไปเพิ่ม ทำให้จำนวนถั่วที่เหลือจากคู่กลายเป็นคี่ หรือจากคี่กลายเป็นคู่ เมื่อเหยื่อเริ่มแพ้เกมก็จะยิ่งอยากได้เงินคืน จนทำให้สุดท้ายกลายเป็นติดหนี้แก๊งควาย ต้องเสียเงินทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหยื่อบางคน ถึงขนาดนำโฉนดที่ดินของตนไปจำนองเพื่อนำเงินมาให้กับแก๊งควาย
เมื่อได้เงินมาแล้วกลุ่มแก๊งควายจะนำมาแบ่งกันตามสัดส่วนหน้าที่ของแต่ละคน ซึ่งคนที่ทำหน้าที่เป็น คนจีบ นั้นจะเป็นคนที่ได้ส่วนแบ่งเยอะที่สุด
นายพังพะกาญจน์ รับสารภาพว่า หลังจากหลอกลวงเหยื่อมามากว่า 20 ปี ตั้งแต่อายุประมาณ 40 ปี มีผู้เสียหายเกินกว่า 10 คน เงินที่ได้จากการกระทำความผิดหลายล้านบาท หมายจับกว่า 12 หมาย ก็ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือเหมือนแต่ก่อน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ปิดฉากการหลบหนีอย่างยาวนาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ต้องหามาที่ กก.2 บก.ป. เพื่อทำบันทึก และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายพังพะกาญจน์ ยังฝากถึงประชาชนและเจ้าของกิจการ ว่าอย่าให้ความโลภครอบงำ หากเกิดความโลภแล้ว จะทำให้ขาดสติและตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพอย่างที่ตนกระทำได้ง่าย ซึ่งเท่าที่ทราบยังมีคนร้ายอีกมากมายที่อาศัยความโลภของมนุษย์ ในการหลอกลวง ทั้งนี้เท่าที่ตนเองทราบในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงยังมีอีกหลายรายที่ใช้วิธีการเช่นเดียวกับตน อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าให้ระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อธุรกิจซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพแฝงตัว เข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทั้งซื้อขายบ้าน รถ ที่ดิน หลังจากซื้อขายกันแล้วก็จะชักชวนหรือหลอกไปเล่นการพนัน โดยหลอกให้ตายใจหรือเชื่อมั่นว่าได้แน่ๆ ซึ่งถ้ามีสติ ไม่โลภก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งในรายนี้ถือว่าเคราะห์ที่รู้สึกไม่ดีและแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่คิดเล่นต่อเพื่อถอนทุนคืน ซึ่งอาจจะเสียมากกว่า 1 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี