“ตม.1” ซุ่มจับสาวลาวเปิดคาราโอเกะกลางกรุง ชักชวนเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีนั่งดริ๊งค์ เข้าข่ายผิดค้ามนุษย์
7 ตุลาคม 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.พรชัย ขันตี , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รอง ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.กก.2 บก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวลาว
สืบเนื่องจากชุดสืบสวน บก.ตม.1 ได้ตรวจสอบสถานประกอบการที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 พบว่าที่ร้านสบายดีคาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง มีเด็กสาวนั่งดริ๊งค์อายุไม่เกิน 18 ปีคอยนั่งให้บริการแก่ลูกค้า แต่งกายยั่วยวนทางเพศ ซึ่งลูกค้าสามารถแตะเนื้อต้องตัวเด็กสาวดังกล่าวได้ ซึ่งทางร้านเองก็ได้รับประโยชน์ จากการที่เด็กให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้าและร้านค้าแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กในรูปแบบค่าดริ๊งค์ โดยเด็กได้ส่วนหนึ่ง ร้านได้ส่วนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้วางแผนเข้าตรวจสอบ โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตบริเวณหน้าร้าน พบหญิงวัยรุ่นที่สันนิฐานว่าอายุน่าจะไม่เกิน 18 ปี จำนวน 2– 3 คน เดินเข้าออกร้าน มีการแต่งกายยั่วยวนทางเพศ และคาดว่าทำงานอยู่ที่ร้านดังกล่าว ต่อมาวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมสายลับได้แฝงตัวเข้าไปสืบสวนหาข่าวโดยเข้าไปใช้บริการ พบมีพนักงานหญิงทำงานในลักษณะนั่งดริ๊งค์กับแขก โดยแขกต้องจ่ายค่าดริ๊งค์ครั้งละ 120 บาท ต่อการที่หญิงสาวนั่งด้วย 40 นาที
จากการสังเกตโต๊ะอื่นมีการโอบกอด ถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาว และหญิงสาวมีการสอบถามว่าจะพาไปข้างนอกหรือไม่ ซึ่งจะต้องเสียค่าเวลาให้ทางร้าน 300 บาท คาดว่าอาจเป็นการชักชวนค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำรายงานการสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชาไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 ได้วางแผนเข้าตรวจสอบจับกุมร้านสบายดี คาราโอเกะ โดยได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 4 ใบถ่ายสำเนาและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และมอบให้สายลับใช้ในการล่อซื้อและส่งสายลับเข้าไปใช้บริการ และเมื่อสายลับส่งสัญญาณเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าไปตรวจสอบ พบหญิงสาวจำนวน 5 คน ทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาว กำลังทำงานในลักษณะนั่งดื่มกินอยู่กับลูกค้า และมีการโอบกอด ลูบคลำ
จากการตรวจสอบพบนางบี (นามสมมุติ) สัญชาติลาว ยอมรับว่าเป็นผู้ดูแลร้านสบายดีคาราโอเกะ ซึ่งเป็นของนายดลเดช สามีตนเอง แต่นายดลเดชไม่ค่อยได้เข้ามาที่ร้าน มอบหมายให้ตนเองรับพนักงานเข้าทำงานเองทั้งหมด
นอกจากนี้พบหญิงสาวชาวลาว คือ นางคำภูวัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน , นางพัดละดา ไม่มีหนังสือเดินทาง และพบพนักงานนั่งดริ๊งค์อายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 2 ราย ให้ถ้อยคำว่ามีหน้าที่ให้บริการลูกค้า แต่งกายวาบหวิว ยั่วยวนทางเพศ คอยนั่งดื่มกินและให้บริการลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถแตะเนื้อต้องตัวได้ ซึ่งทางร้านเองก็ได้รับประโยชน์จากการที่ตนให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้าโอบกอด ลูบคลำ โดยค่าดริ๊งค์ 120 บาท ทางร้านจะหักไป 20 บาท ต่อ 1 ครั้ง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหานางบี ข้อหา “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในทางเพศในรูปแบบให้บริการทางอนาจาร กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด อันมีลักษณะเป็นการลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือเพื่อการใด และเป็นนายจ้างรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์เข้าทำงานในสถานบริการโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สตม.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
# ขอบคุณภาพ-ข้อมูล พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.อก.สตม. ปฏิบัติราชการ รองผบก.ตม.1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี