ญาติยังติดใจ
ร้องยธ.ชันสูตรลัลลาเบล
ตรวจหาสารเคมีเพิ่มเติม
เพื่อสำนวนสมบูรณ์ที่สุด
ทนายความนำครอบครัวลัลลาเบล ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม ขอให้ช่วยตรวจชันสูตรศพหาสารเคมีบางตัวเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนคดีสมบูรณ์ที่สุด ขณะที่แพทย์จาก 4 โรงพยาบาลนัดหารือรายละเอียด ด้าน ผอ.นิติวิทยาศาสตร์เผยทราบผลตรวจชิ้นเนื้อวันที่ 21 ตุลาคมนี้ “สมศักดิ์”เปิด“ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข”ระบุทุกคดีต้องเสร็จภายใน 3
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กระทรวงยุติธรรม นายพงศา ราตรี ทนายความ พร้อมด้วย บิดามารดาของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบล อายุ25ปี พริตตี้สาวชื่อดัง ที่เสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา หลังไปรับงานเอนเตอร์เทน เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ให้กระทรวงยุติธรรม (ยธ.)ช่วยเหลือตรวจชันสูตรศพ ลันลาเบล โดยระบุว่า เป็นการตรวจสารเคมีบางตัว ที่ยังไม่เคยตรวจมาก่อนเพิ่มเติม ไม่ใช่การผ่าพิสูจน์ซ้ำ เพื่อให้สำนวนคดีมีความสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งจะมีการหารือกันในวันที่ 10 ตุลาคม จะมีทั้งแพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี และ รพ.ราชวิถี เพื่อหารือรายละเอียดการตรวจว่าทำได้มากน้อยแค่ไหนและใช้เวลานานเท่าใด
ส่วนการเยียวยานั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยและต้องรอความชัดเจนของคดีด้วย และวันที่ 15 ตุลาคมนี้จะเดินทางไปกระทรวงแรงงาน เพื่อไปดูเรื่องการประกอบอาชีพของครอบครัวลันลาเบล และจะมีการหารือเรื่องการชดใช้หนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ลัลลาเบลเป็นหนี้อยู่ประมาณ 2 แสนบาท
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้รับเรื่องไว้พร้อมกับเรื่องร้องเรียนอื่น ในโอกาสเปิดศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข โดยกล่าวว่าในกรณีของลัลลาเบล ได้สั่งการให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตรวจสอบ โดยจะมีการประสานกับหน่วยงานที่ตรวจสอบก่อนหน้านี้ด้วย ขณะเดียวกันจะประสานไปยังภาควิชานิติเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการผ่าชันสูตรศพเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างหน่วยงาน
ขณะที่ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า จะตรวจสอบในบางประเด็นเท่านั้น จะไม่ตรวจสอบซ้ำกับที่นิติเวช จุฬาลงกรณ์ตรวจ โดยจะเริ่มดำเนินการผ่าชันสูตรในวันที่ 10 ตุลาคม และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จะเป็นผู้ตรวจรายงานผลชิ้นเนื้อ รายงานผลวันที่ 21 ตุลาคมนี้
วันเดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรม ได้มีการจัดพิธีเปิดศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เป็นประธานในงาน ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การเปิดศูนย์ดังกล่าวว่า เพื่อยกระดับในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคง ซึ่งมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาระบบงานยุติธรรมและกฎหมายให้มีเอกภาพ รวมทั้งอำนวยความยุติธรรมเชิงรุกเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเปิดศูนย์ว่า ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 5 เรื่องประกอบด้วย 1.ตัวแทนผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนซื้อ-ขายเงินสกุลดิจิทัล และเงินตราต่าง ประเทศกับบริษัท EVEN FINTECH ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 แม่ทีมจะเข้ามาชักชวนและสอนวิธีการ trade เงินตราต่างประเทศ โดยให้นำเงินบาทไทย มาซื้อขายกับผู้นำ ซึ่งจะได้เงินเร็วกว่าการนำเงินไปแลกกับระบบกระเป๋าเงิน digital การลงทุนกับบริษัทนี้ จึงเป็นการโอนเงินตรงไปยังกลุ่มแม่ทีม และจะได้เงินปันผลภายใน 1 สัปดาห์ แต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม่ทีมแจ้งว่าเว็บไซต์จะปรับปรุงระบบและจะไม่ได้เงินปันผลแบบเดิม แต่หลอกให้ผู้เสียหายเปลี่ยนไปลงทุนกับบริษัท TRADENANCE INCORPORATION แทน แต่ไม่นานก็ปิดเว็บไซต์หนีเช่นกัน โดยมีนักลงทุนเสียหายกว่า 140 คน รวมมูลกว่ากว่า 94 ล้านบาท และอาจมีผู้เสียหายทั่วโลกกว่า 400,000 คน
2.ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับบริษัท TRADENANCE INCORPORATION โดยบริษัทดังกล่าว อ้างว่าได้มีการจดทะเบียนบริษัทอยู่ที่ประเทศอังกฤษและมีบริษัทตั้งอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ จัด package การลงทุนอย่างจูงใจ เริ่มเปิดให้ลงทุนเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา และหลอกว่าเป็นการซื้อขาย เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ (cryptocurrency) โดยจะแบ่งเงินปันผลกำไรให้แก่นักลงทุน อ้างจะมีรายได้จากการลงทุน 500% ในเวลา 220 วัน โดยมีค่าตอบแทน 1 ถึง 2.75% ต่อทุกวัน เว้นเสาร์อาทิตย์ และสามารถเบิกถอนเงินปันผลได้ทุกวัน
ซึ่งนักลงทุนที่สนใจมักจะเข้าร่วมกลุ่ม LINE แต่บางรายถูกชักชวนโดยแม่ทีม หากหาสมาชิกได้มากจะมีระดับเพชรของแม่ทีม รางวัลตอบแทน เช่น ทัวร์ต่างประเทศ นาฬิกาหรู รถยนต์หรู และบ้าน ในช่วงแรกนักลงทุนสามารถเบิกถอนเงินได้ และเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา หน้าเว็บไซต์ถูกปิดลงไม่สามารถถอนเงินได้ นักลงทุนเสียหายกว่า 500 คน รวมมูลกว่ากว่า 70 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กรณีพบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการลงทุนในธุรกิจการเงินนอกระบบ พบว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าวผู้เสียหายได้มายื่นเรื่องไว้กับดีเอสไอแล้ว
3.คดีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกาถูกจับกุมข้อหายาเสพติดที่ สภ.พังงัน จ.สุราษฎร์ธานี อ้างว่าไม่ได้รับการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ 4.กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นหนี้นอกระบบและขายฝากที่ดินจาก จ.นครนายก และ 5.คดีการเสียของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลัลลาเบล ซึ่งทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์กับกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากยังมีความสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต และขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ช่วยตรวจพิสูจน์ซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คดีร้องทุกข์ของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดหลังจากศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขรับเรื่องไว้ทั้งหมดแล้ว ตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นทุกคดีภายใน 3 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี