ดีเอสไอขึ้นเฮลิคอปเตอร์ปูพรมตรวจ 6 จุด ต้องสงสัยคลี่คลายปม“บิลลี่”หายตัวในอุทยานฯ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สอบพยานเพิ่มอีก 20 ปาก พิสูจน์คำให้การจริง-เท็จ เร่งหาซาก จยย.ในห้วย“คมกฤต”
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากรรองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน แถลงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ภายหลังได้รับสำนวนการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ไม่นำตัวนายพอละจี ส่งให้ สภ.แก่งกระจาน ดำเนินคดีฐานลักลอบเก็บของป่า จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็มีการสอบปากคำ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ท.เนื่องจากพบการให้ถ้อยคำของพยานขัดกันหลายจุด จึงต้องประสานขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บินสำรวจเส้นทางภายในอุทยานแก่งกระจาน และสำรวจสภาพพื้นที่ของอุทยานดังกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับจุดแรกที่จะบินสำรวจ คือ ด่านเขามะเร็ว จุดที่ 2 ที่แยกหนองมะค่า จุดที่ 3 สะพานแขวนแก่งกระจาน จุดที่ 4 ไร่ชัยราชพฤกษ์ จุดที่ 5 ห้วยคมกฤต และจุดที่ 6 ใจกลางแผ่นดินซึ่งเป็นจุดที่บ้านชุมชนชาวกะเหรี่ยงถูกเผาไล่ที่ เพื่อนำรายละเอียดทั้งหมดไปประกอบสำนวนการสอบสวน ตั้งแต่จุดที่มีการควบคุมตัวนายพอละจี การแจ้งความการหายตัวไป และการติดตามหาตัว จนพบชิ้นส่วนกระดูกนายพอละจี
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ในสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ และ ป.ป.ท.มีคำให้การของพยานบุคคลและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย กล้องวงจรปิดและข้อมูลการติดต่อสื่อสารในวันเกิดเหตุ การบินสำรวจสภาพพื้นที่เพื่อพิสูจน์ว่าคำให้การของพยานตรงจุดใดเป็นข้อมูลจริง และคำให้การส่วนใดเป็นข้อมูลเท็จ เช่น เจ้าหน้าที่เคยให้การว่าในวันเกิดเหตุผ่านไปยังเส้นทางใด และปล่อยตัวในจุดใด เส้นทางใด ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าการสอบสวนของดีเอสไอให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน และเป็นการสอบสวนคดีอย่างละเอียด ทั้งมูลเหตุจูงใจก่อนเกิดเหตุ ว่ามีเหตุขัดแย้งอะไรบ้างจนทำให้ต้องถูกฆาตกรรม รวมทั้งกรณีหมู่บ้านกะเหรี่ยงถูกเผา ในวันเกิดเหตุหายตัวใครเป็นผู้สั่งน้ำผึ้ง จนเป็นเหตุให้นายพอละจี ต้องเข้ามาเก็บน้ำผึ้งป่า 5 ขวด
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกอีก 8 ชิ้น ได้รับการประสานจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ว่าพบพบดีเอ็นเอในกระดูก 8 ชิ้น ตรงกับพันธุกรรมของนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายพอละจี ขณะนี้อยู่ระหว่างการใช้เครื่องมือและเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ยืนยันดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต รวมทั้งพิจารณาว่าจำเป็นต้องส่งวัตถุพยานไปตรวจในห้องปฏิบัติการในต่างประเทศหรือไม่
“จากการตรวจสอบถ้อยคำพยานที่ ป.ป.ท.สอบสวนไว้ พบว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนให้การไว้ทั้งหมดแล้ว ในความเป็นจริงข้อมูลทั้งหมดจะต้องสัมพันธ์กัน เมื่อให้การไม่ตรงกันในชั้นสอบสวน ก็ต้องสอบเจ้าหน้าที่ซึ่งเคยให้ปากคำ ว่าประสงค์จะให้การใหม่หรือไม่ รวม 20 ปาก ขณะนี้แม้ว่าสำนวนการสอบสวน มีหลักฐานเพียงพอแล้ว แต่ยังต้องการทำให้สำนวนมีความแน่นหนามากขึ้นเพราะเมื่อส่งสำนวนถึงอัยการ อาจมีความเห็นต่าง สั่งสอบสวนเพิ่มเติม ดังนั้นจึงต้องพยายามเต็มที่เพื่อให้มีหลักฐานครบถ้วน ปราศจากข้อสงสัย โดยมั่นใจว่าจะสรุปสำนวนคดีได้ก่อนวันที่ 3 ธันวาคมนี้” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากคดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้อง ดีเอสไอจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เพราะใช้งบประมาณจำนวนมาก พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ไม่สามารถไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมในชั้นอัยการและศาล เนื่องจากเป็นดุลพินิจของแต่ละฝ่าย ตอบได้เพียงว่าคดีนี้ดีเอสไอ ไม่ได้สอบสวนฝ่ายเดียว มีอัยการร่วมเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ ได้เก็บรวบรวมหลักฐานอย่างเต็มความสามารถ
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ในพื้นที่มีคณะทำงานของดีเอสไอ หลายชุด โดยชุดหนึ่งทำหน้าที่ตรวจหาจักรยานยนต์และกล้องถ่ายภาพของนายพอละจี ที่หายไป การบินสำรวจจะดูตั้งแต่จุดที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายพอละจี เส้นทางที่อ้างว่าปล่อยตัวนายพอละจี และเส้นทางต่างๆ ซึ่งประกอบอยู่ในสำนวนคดี เป็นการมองภาพจากมุมสูง และจะพยายามบินให้ต่ำที่สุดเพื่อให้เห็นภาพ เนื่องจากการมองภาพจากแอพพลิเคชั่นกูเกิ้ลจะให้ภาพอีกแบบ แต่การบินสำรวจจะเห็นภาพเพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และนำไปวิเคราะห์เส้นทางต่างๆ จนนำไปสู่การค้นพบกระดูกของนายพอละจี
ทั้งนี้ 6 จุดที่กำหนดบินสำรวจมีความสำคัญทั้งหมด เช่น จุดปล่อยตัว หนองมะค่ามีระยะห่างไกล อย่างไร หรือจุดห้วยคมกฤต ซึ่งมีสภาพเป็นห้วยลึก และยังเป็นประเด็นข้อสงสัยถึงลักษณะพื้นที่ จึงจำเป็นต้องปูพรมตรวจค้นตามข้อมูลการข่าว เพราะขณะนี้ดีเอสไอ ยังหาจักรยานยนต์ไม่พบ รวมถึงคำให้การในจุดที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่สอดคล้องกับความจริง ทุกอย่างจะฟ้องด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี