เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2562 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ  รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แถลงผลปฏิบัติการปราบปราม  Sextortion  หรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระทำต่อชายหรือหญิงโดยมีวิธีคุกคาม หลอกล่อหรือหลอกลวง ให้เหยื่อเปลื้องผ้าหรือกระทำอนาจารแล้วบันทึกภาพไว้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อจะนำภาพหรือคลิปวิดีโอดังกล่าวมาแบล็คเมล์หรือนำไปหาประโยชน์ด้วยการเปิดกลุ่มลับ เรียกเก็บเงิน ถือเป็นภัยสังคม

โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 3 สัปดาห์มีผู้เสียหายหญิงอายุ 16-25 ปี รวม 8 คน มาร้องทุกข์ ระบุว่า ถูกสาวประเภทสองอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งหลอกลวงให้เปลื้องผ้าขอดูสัดส่วน เมื่อได้คลิปวีดีโอแล้วก็เอาไปปล่อยในกลุ่มไลน์ ที่มีการเรียกเก็บเงิน 300-500 บาทต่อคน ผู้บังคับการ ปอท.จึงสั่งการ ให้ฝ่ายสืบสวนสืบหาตัว  กระทั่งขอหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชาย 1 คน ตามหมายจับพร้อมตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตามหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรี ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ  โดยรับเพียงเป็นเจ้าของไลน์และเฟซบุ๊คที่หลอกลวง 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ได้ฝากเตือน ไปยังผู้ครอบครอง คลิปวีดีโอลามกอนาจารดังกล่าว นอกจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯแล้วยังมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.287/1  ฐาน ครอบครอง สื่อลามกอนาจารเด็กมีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หากส่งต่อจะมีโทษสูงสุดถึง 7 ปีปรับ 140,000 บาท หรือหากทำเพื่อความประสงค์แห่งการค้ามีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปีปรับ 200,000 บาท เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผลผู้อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงเดือนกันยายน 2562 มีผู้เสียหายมาปรึกษาหรือแจ้งความว่าถูกบันทึกภาพและข่มขู่ บังคับต่างๆรวมทั้งสิ้น 174 ราย

ขณะผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นสาวประเภทสอง ทำให้เกิดความไว้ใจ คุยกันอยู่ 4-5 เดือน โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทขนาดใหญ่ จากนั้นหลอกล่อใช้วิธีการ Video Call มาขอดูหน้าและหลอกให้ถอดเสื้อเพื่อขอดูหน้าอกว่าทำมาหรือไม่ เพื่อนำไปประกอบการคัดตัวนักแสดง  ขอฝากถึงผู้ที่ถูกชักชวนโดยวิธีการลักษณะนี้ให้ไตร่ตรองให้ดีพร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาจะถ่ายภาพลามกอนาจาร รู้ตัวว่าถูกหลอกก็หลังมีภาพถูกนำไปเผยแพร่ เมื่อ 3-4 เดือนก่อนกระทั่งมีคนรู้จักมาบอกว่าเห็นภาพหลุดในโลกโซเชียล