เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 25 ตุลาคม 2562 ที่ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.คลองลึกฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201) ได้เดินทางมารอรับคณะผู้ช่วยทูตตำรวจกัมพูชา และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่จะนำตัว 3 สาวชาวไทย ประกอบด้วย น.ส.เอ (นามสมมุติ) , น.ส.บี (นามสมมุติ) และ น.ส.ซี (นามสมมุติ) ซึ่งถูกแก๊งชาวจีนหลอกลวงให้ไปทำงานนวดแผนไทยที่เมืองสีหนุวิลล์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แล้วทำการยึดพาสปอร์ต และกักขังหญิงไทยทั้ง 3 คน ไว้ในห้องพักภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองสีหนุวิลล์ ก่อนจะบังคับให้ทำงานเป็นหมอนวด วันละ 24 ชม.โดยไม่ได้เงินนานเกือบ 2 เดือน ต้องใช้แอฟพลิเคชั่นไลน์ ส่งไลน์มาแจ้งขอความช่วยเหลือ จาก พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว
จากนั้น ผกก.ตม.จว.สระแก้ว จึงได้แจ้งประสานไปยัง พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือไปยัง พ.ต.อ.จตุรภัทร ภิรมย์แก้ว รอง ผบก.ประจำ ตท.ในฐานะผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ.กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ร่วมกับ พล.ต.ท.แซมวัน วีระ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจกัมพูชา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงกรมตำรวจกัมพูชา ทำการสืบสวนในทางลับจนทราบสถานที่กักขัง 3 สาวชาวไทย อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองสีหนุวิลล์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากนั้นจึงนำตำรวจหน่วยสวาทของกัมพูชา บุกเข้าไปช่วยเหลือ 3 สาวชาวไทย ออกมาได้สำเร็จและปลอดภัยทุกคน นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุม 3 ชาวจีน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ดำเนินคดีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว
จนกระทั่งเวลา 17.00 น.พล.ต.ท.แซมวัน วีระ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจกัมพูชา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงกรมตำรวจกัมพูชา และ พ.ต.อ.จตุรภัทร ภิรมย์แก้ว รอง ผบก.ประจำ ตท.ในฐานะ ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมคณะ ได้นำ 3 หญิงสาวชาวไทย นั่งรถยนต์ตู้จากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชามาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยมารอรับ และให้การต้อนรับคณะฝ่ายกัมพูชาอย่างชื่นมื่น ซึ่ง พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้กล่าวขอบคุณคณะเจ้าหน้าที่ฑูตฝ่ายกัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง ที่ให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่ในประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ พล.ต.ท.แซมวัน วีระ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจกัมพูชา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงกรมตำรวจกัมพูชา เผยว่า เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา เป็นไปอย่างแนบแน่น ทำให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือหญิงชาวไทยทั้ง 3 คน ได้สำเร็จและปลอดภัย ส่วนคนร้ายนั้น ทางการกัมพูชาได้จับกุมตัวไว้ได้จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวจีน ส่งดำเนินคดีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทั้งหมดแล้ว
ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เหยื่อแก๊งชาวจีน เผยว่า ถูกแก๊งชาวจีนหลอกลงให้ไปทำงานเป็นหมอนวดแผนโบราณที่เมืองสีหนุวิลล์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยหลอกว่าจะมีรายได้เดือนละ กว่า 6,000 หยวนจีน หรือประมาณ 25,000 บาท และทำงานวันละ 8 ชม.เท่านั้น จึงหลงเชื่อเดินทางโดยเครื่องบินจาก กทม.ไปที่เมืองสีหนุวิลล์ เมื่อไปถึงกับถูกชาวจีนทั้ง 3 คน ยึดพาสปอร์ตไว้ แล้วนำไปกักขังไว้ในห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นบังคับให้ทำงานเป็นหมอนวด ตลอด 24 ชม.โดยไม่ให้พัก และจะมีชาวจีนร่วมแก๊งคอยเฝ้าตลอดเวลา โดยไม่ได้รับเงินนานเกือบ 2 เดือน จึงลักลอบส่งไลน์มาแจ้งเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาบุกเข้าช่วยเหลือ และนำกลับมาส่งประเทศไทย "เหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ" น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวด้วยความดีใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี