เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.บก.ป. , พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง , พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล , พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส , พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน รอง ผกก.2 บก.ป.นำโดย พ.ต.ท.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.2 บก.ป.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล หรือ Mr.Mark John Rumble อายุ 31 ปี สัญชาติอังกฤษ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 719/2562 คดีหมายเลขดำที่ จผ 10/2562 คดีหมายเลขแดงที่ จผ 10/2562 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ผู้ร้ายข้ามแดน" โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยทางสถานทูตอังกฤษได้ประสานมายังกองบังคับการปราบปราม ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัว นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล หรือ Mr.Mark John Rumble ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดที่ประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล ได้หลบหนีมาอยู่ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ต่อมาวันนี้ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาที่ 84/2562 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพื่อค้นบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเรียกบุคคลในบ้านออกมา พบ นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล จึงได้แสดงหมายจับของศาลอาญา ที่ 719/2562 คดีหมายเลขดำที่ จผ 10/2562 คดีหมายเลขแดงที่ จผ 10/2562 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2562 โดยได้แจ้งสิทธิ์ ข้อกล่าวหาว่า "ผู้ร้ายข้ามแดน" ให้ดู และได้ขอตรวจสอบหลังสือเดินทางกับ นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล พบว่ามีชื่อและตำหนิรูปพรรณตรงกับตำหนิรูปพรรณผู้กระทำผิดตามหมายจับ โดยผู้ถูกจับได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 11 ต.ค.62 และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 9 พ.ย.62 เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่ง ศาลอาญา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นฝีมืออดีตภรรยาชาวไทยซึ่งอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ได้มีเรื่องระหองระแหง จนต้องเลิกลากันไป ทำให้ภรรยาเก่าไม่พอใจ จนเป็นเหตุให้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับตน
ทั้งนี้ นายมาร์ค จอห์น รัมเบิ้ล เป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของประเทศอังกฤษ โดยถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 7 ข้อหา โดย 3 ข้อหาแรก เป็นความผิดฐานการสมรู้ร่วมคิดกับผู้อื่นในการจำหน่ายยาเสพติดควบคุมประเภทเอ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 4(1) ของพระราชบัญญัติการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดปี ค.ศ.1971 แห่งสหราชอาณาจักร และขัดต่อมาตรา 1(1) ของพระราชบัญญัติกฎหมายอาญาปี ค.ศ.1977 แห่งสหราชอาณาจักร โดยมีโทษสูงสุด สำหรับความผิดนี้คือ จำคุกตลอดชีวิต
อีก 3 ข้อหา เป็นความผิดฐานการสมรู้ร่วมคิดกับผู้อื่นในการจำหน่ายยาเสพติดควบคุมประเภทบี ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 4(1) ของพระราชบัญญัติการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดปี ค.ศ. 1971 แห่งสหราชอาณาจักร และขัดต่อมาตรา 1(1) ของพระราชบัญญัติกฎหมายอาญาปี ค.ศ.1977 แห่งสหราชอาณาจักร โดยมีโทษสูงสุด สำหรับความผิดนี้คือ จำคุก 14 ปี
และ 1 ข้อหา เป็นความผิดฐานครอบครองสารเสพติดควบคุมประเภทบี ที่ชื่อว่าเมทธอเซทเทมีน โดยมีเจตนาที่จะจำหน่ายให้กับผู้อื่น ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 4(1) ของพระราชบัญญัติการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดปี ค.ศ. 1971 และขัดต่อมาตรา 5(3) ของพระราชบัญญัติกฎหมายอาญาปี ค.ศ.1971 แห่งสหราชอาณาจักร โดยมีโทษสูงสุด สำหรับความผิดนี้คือ จำคุก 14 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี