น้ำเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่สำคัญของการทำการเกษตรแต่ด้วยสภาพภูมิอากาศแปรปรวนส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนลดน้อยลง หรือเกิดฝนทิ้งช่วง ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรมากขึ้นทุกขณะ ประกอบกับพื้นที่ชลประทานยังไม่เพียงพอ เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องอาศัยน้ำฝนและแหล่งน้ำธรรมชาติในการเพาะปลูก ในช่วงฤดูแล้งน้ำขาดแคลน ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย เกษตรกรสูญเสียรายได้ กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม
รัฐบาลจึงมีแนวคิดในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรในระดับไร่นาแบบใหม่ คือ เน้นให้เกษตรกรแต่ละราย พัฒนาพื้นที่ของตนเองให้มีระบบสำรองน้ำเพื่อการเกษตร ด้วยการขุดสระกักเก็บน้ำในไร่นา หรือขุดเจาะบ่อบาดาลไว้ใช้ทดแทนน้ำชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงจัดทำโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิก สถาบันเกษตรกร โดยให้สถาบันเกษตรกร (สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร) เป็นแหล่งรับเงินทุนหมุนเวียน เพื่อนำไปสนับสนุนเงินกู้แก่สมาชิกในการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการลงทุนพัฒนาแหล่งน้ำในแปลงไร่นาของตนเองอย่างเป็นระบบ สร้างโอกาสในการผลิตเกษตรกรรม ลดความเสี่ยงจากใช้น้ำชลประทาน และแหล่งน้ำจากธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียว
นางมะลิฉัตร หว่างวิวัฒน์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรคูเมือง จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรคูเมือง ได้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสถาบันเกษตรกรกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์ได้รับจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิก ในปี 2559 วงเงิน 2.8 ล้านบาท ให้เกษตรกรสมาชิกกู้ยืมรวม 56 ราย รายละ 50,000 บาท สำหรับนำไปขุดเจาะบ่อบาดาล จัดซื้ออุปกรณ์วางระบบน้ำ โดยเกษตรกรสมาชิกจะต้องชำระเงินกู้ปีละ 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 3% รวมระยะเวลา 5 ปี และในปี 2562 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนงบเพิ่มเติมอีกจำนวน 2.1 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนให้สมาชิกพัฒนาระบบน้ำในไร่นา ซึ่งทางสหกรณ์ฯ ได้นำไปจัดสรรให้กับสมาชิกที่ได้มีการสำรวจความต้องการไว้ ทั้งต่อยอดรายเก่าและรายใหม่
การสนับสนุนเงินกู้เพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นา เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกสหกรณ์การเกษตรคูเมืองอย่างมาก เนื่องจากสมาชิก
ส่วนใหญ่มักประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง พอมีเงินไปขุดเจาะบ่อบาดาล ไปพัฒนาระบบสำรองน้ำไว้ใช้ในไร่นาของตนเอง จนกระทั่งมีน้ำเพื่อใช้ทำการเกษตรอย่างเพียงพอ สามารถปลูกข้าว ปลูกพืชหลังนา พืชผัก ทำเกษตรผสมผสาน มีรายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งสหกรณ์ฯ จะรวบรวมผลผลิตของสมาชิก ส่งขายให้กับบริษัทเอกชน และจัดส่งไปขายยังตลาดชุมชนในอำเภอคูเมือง
ด้านนายสุเมค ลิอ่อนรัมย์ สมาชิกสหกรณ์การเกษตรคูเมือง จำกัด กล่าวว่า ตนได้กู้เงินจากสหกรณ์รวมทั้งสิ้น 56,000 บาท เพื่อนำมาปรับปรุงพื้นที่การเกษตรและวางระบบน้ำ ซื้อเครื่องปั๊มน้ำบาดาล แท็งก์น้ำขนาด 2,000 ลิตร ท่อ pvc วางระบบน้ำ ในพื้นที่ 24 ไร่ ปัจจุบันได้ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ทั้งทำนา ปลูกพืชผักสวนครัวอาทิ มะเขือ ข้าวโพด พริก แตงกวา ฟัก กระเจี๊ยบเขียว เป็นต้น ซึ่งตั้งแต่ทำระบบน้ำในไร่นา ทำให้มีน้ำเพียงพอสามารถปลูกพืชผักได้หลากหลายชนิดหมุนเวียนตลอดทั้งปี มีไว้บริโภคเองในครัวเรือน และเหลือขายมีรายได้เฉลี่ยวันละ 200-400 บาท ก็ทำให้อยู่ได้อย่างมีความสุขแบบพอเพียง เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อนที่ยังไม่ได้ทำระบบน้ำ ต้องอาศัยน้ำจากบ่อน้ำธรรมชาติในช่วงแล้งก็ต้องตักน้ำไปรดผัก ปลูกได้ไม่กี่ชนิดผลผลิตก็น้อยแต่ตอนนี้ปลูกพืชผักได้หลากหลายเพราะมีน้ำเพียงพอ ทั้งยังใช้ระบบน้ำหยดเข้ามาช่วยลดภาระด้านแรงงาน ต่อไปวางแผนจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้า ช่วยลดต้นทุนการผลิตอีกทางหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี