กรมชลฯโชว์4นวัตกรรมจาก‘ยางพารา’ เฉลิมชัยสั่งเดินหน้าทำถนนยางทั่วประเทศ
8 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณสำนักเครื่องจักรกล และสำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมผลงานวิจัย นวัตกรรมการผลิตจากยางพารา เช่น เรือกำจัดวัชพืช ทุ่นพลาสติกปูด้วยแผ่นยางกันลื่น ทุ่นยางพาราดักผักตบชวาและรางวัดปริมาณน้ำชลประทานจากยางพารา ซึ่ง รมว.เกษตรฯมีความสนใจมากที่หน่วยงานรัฐ มีการพัฒนาส่งเสริมการใช้ยางพารา โดยให้ขยายผลการวิจัยผลิตวัสดุ อุปกรณ์ ทางการเกษตร จากยางพาราในหน่วยอื่นๆและเน้นย้ำให้เดินหน้าโครงการทำถนนพาราซอยซีเมนท์ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างยั่งยืน ยกระดับราคายางพาราให้มีเสถียรภาพในระยะยาว
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้สนองนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานรัฐ โดยการนำยางพารามาใช้ในกิจกรรมของงานชลประทาน คือ การคิดค้นนวัตกรรม ทุ่นพลาสติก HDPE ปูด้วยแผ่นยางกันลื่น โดยเนื้อวัสดุของทุ่นเป็น High Density Polyethylene ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทพอลิเอทิลีน ที่มีค่าความหนาแน่นสูง ส่วนแผ่นสังเคราะห์ยางปูพื้นประกอบด้วย ยางธรรมชาติ 85% ยางสังเคราะห์ 5% และอื่นๆ 10% ใช้เป็นโป๊ะลอยน้ำจากทุ่น HDPE สำหรับเทียบเรือเพื่อใช้สัญจรในการปฏิบัติงาน ในอ่างเก็บน้ำ คลองชลประทาน หรือเขื่อนต่างๆ
เรือกำจัดวัชพืชขนาดเล็ก มีคุณลักษณะเฉพาะและรูปแบบของเรือกำจัดวัชพืชขนาดเล็ก โครงสร้างและเปลือกเรือ ทำจากวัสดุอลูมิเนียมขึ้นรูปและเชื่อมประกอบ ขนาดความกว้าง 1.70 เมตร ความยาว 4.80 เมตร และความสูง 0.50 เมตร บุ้งกี๋สำหรับตักเก็บวัชพืช เป็นแบบตะแกรง ทำจากอลูมิเนียมผสม ขนาดความกว้าง 105 เซนติเมตร ความยาว 200 เซนติเมตร และความสูง 55 เซนติเมตร ล้อระหัด สำหรับขับเคลื่อนเรือให้เดินหน้า ถอยหลัง แบบเป็นอิสระต่อกัน เครื่องยนต์ต้นกำลังใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 13 แรงม้า สตาร์ทด้วยมอเตอร์ (มีแบตเตอรี่) และเชือกสตาร์ท ความเร็วในการเดินเรือ ไปได้ทั้งเดินหน้าและถอยหลังในน้ำ ประมาณ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราความสิ้นเปลืองนำมันเชื้อเพลิง(เบนชิน) ประมาณ 2 ลิตร/ชั่วโมง หรือประมาณ 60 บาท ต่อชั่วโมง ใช้พนักงานควบคุม บนเรือ จำนวน 1 คน ความสามารถในการเก็บวัชพืช (ผักตบชวา) ประมาณ 60 ตัน/วัน ขึ้นอยู่กับสภาพของวัชพืชและความชำนาญของพนักงานควบคุมเรือ
ทุ่นยางพาราดักผักตบชวา (Para.-Log Boom) เป็นผลงานศึกษา วิจัยและพัฒนาเพื่อนำไปใช้วางกั้นคลองชลประทานดักผักตบชวา โดยออกแบบให้ใช้เนื้อยางธรรมชาติ 30 กก.ต่อทุ่น มีความยาว 2 เมตร สามารถลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ 50 ของเส้นผ่านศูนย์กลาง แผนการดำเนินงานในปี พ.ศ.2562 ติดตั้งในเขต ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (พื้นทีสำนักงานชลประทานที่ 10 11และ12) และมีเป้าหมายขยายผลจัดทำทุ่นและติดตั้งทั่วประเทศ ในโครงการชลประทาน 200 โครงการๆ ละ 100 จุด เป็นจำนวน 340,000 ทุ่น หรือคิดเป็นน้ำหนักยางพาราทั้งสิ้น 10,200 ตัน
อีกหนึ่งนวัตกรรม เป็นรางวัดปริมาณน้ำชลประทานจากยางพารา (Para.- Cutthroat flume) ใช้สำหรับวัดปริมาณน้ำของการเกษตรกรรมในเขตจัดรูปที่ดิน ทำให้เกิดการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยอุปกรณ์มีขนาดความกว้างราง 0.20 เมตร ยาว 0.90 เมตร สูง 0.25 เมตร และมีแผนการผลิตจำนวน 1,000 ชุด คิดเป็นปริมาณยางที่ใช้ 10 ตัน
“ทั้ง 4 ผลงานนวัตกรรมล้วนเป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนาจากกรมชลประทาน ที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับสนับสนุนการดำเนินงานในภารกิจของกรมชลประทานด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายทองเปลว กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี