ทำไปได้!พ่อค้าแจ้งถูกปล้นคาปั๊ม ตร.สอบเครียด10ชม. ร้องไห้โฮรับ‘กุเรื่อง’
8 พฤศจิกายน 2562 ร.ต.อ.ศุภฤกษ์ อัศวภูมิ รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ภายในปั๊มน้ำมันริมถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ติดกับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิริภพ อนุศิริ ผกก.พ.ต.ท.วรทัศน์วัฒนะชัยนันท์ รอง ผกก. พ.ต.ท.ณัฐยุทธ์ แก้วปาน สว.สส. เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบนายทัตติ สิทธรถศักดิ์ อายุ 40 ปี อาชีพค้าขาย ผู้เสียหาย อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ จากการสอบถามนายทัตติ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านพักเพื่อที่จะไปขายของ คือ รองเท้าสุภาพสตรี ที่ตลาดพระราม4 ตามปกติ ต่อมาเวลาประมาณ 04.30 น. ตนได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มดังกล่าว ซึ่งก่อนที่จะเติมน้ำมันตนได้เดินเข้าไปซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จากนั้นได้เดินไปเข้าห้องน้ำ โดยเข้าที่ห้องน้ำชายห้องแรกติดกับทางเข้า
หลังจากทำธุระเสร็จ ตนได้เปิดประตูเพื่อจะเดินออกมา ทันใดนั้นมีชายรูปร่างสูงใหญ่ ผลักประตูเข้ามาและได้ต่อยเข้าที่ใบหน้าของตนทันที 2-3 ครั้ง และพยายามกระชากเอาสร้อยคอทองคำที่คอของตน ซึ่งตนได้ต่อสู้และพยายามขัดขืนแล้ว แต่คนร้ายได้ชักอาวุธมีดปลายแหลมความยาวประมาณ 20 ซม. ออกมาจี้ที่คอของตนพร้อมกับพูดว่า “มึงเงียบ”
เมื่อได้สร้อยคอแล้ว คนร้ายได้พยายามกระชากเอาสร้อยข้อมือทองคำ ที่ตนใส่อยู่อีกเส้น แต่กระชากไปไม่ได้ ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้าย ตนจึงยอมถอดสร้อยข้อมือให้คนร้ายไป เมื่อคนร้ายได้ทรัพย์สินไปแล้ว คนร้ายก็ได้พูดว่า “ไอ้...มึงอยู่นี่ก่อนนะ” แล้วคนร้ายก็ได้รีบวิ่งหนีออกไป ตอนนั้นตนได้ยืนรออยู่ในห้องน้ำประมาณ 1 นาที จึงเดินออกมา เพื่อดูว่าคนร้ายหลบหนีไปทางใด แต่ไม่พบคนร้ายแล้ว จึงไม่ทราบว่าคนร้ายมากี่คนและหลบหนีไปทางทิศทางใด
หลังจากนั้นตนจึงได้เดินไปสอบถามชาวบ้านที่จอดรถอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อว่าเห็นคนร้ายหรือไม่ แต่ไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเหตุไปที่เบอร์ 191 และต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เดินทางมาพบที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว ตนจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง และได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ลงพื้นที่เเละตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในปั๊มอย่างละเอียดทุกตัว ปรากฏว่าไม่พบเหตุการณ์ตามที่นายทัตติ ได้เเจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด จึงทำการสอบสวนนายทัตติ อย่างละเอียดอีกครั้ง
จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 10 ชั่วโมง นายทัตติ จึงรับสารภาพว่าตนกุเรื่องขึ้นมาทั้งหมด และนำสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท เลสข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดบางบัวทอง ได้เงินสดมาจำนวน 80,350 บาท ส่วนพระเลี่ยมทองนายทัตติ ได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่รถยนต์กระบะ
ด้าน พ.ต.อ.สิริภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า ได้รับเเจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ปั๊มน้ำมันเเห่งหนึ่งจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ และนำตัวนายทัตติ ไปตรวจหาร่องรอยการถูกทำร้ายตามที่กล่าวอ้างที่โรงพยาบาล ซึ่งไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด จึงนำตัวนายทัตติ มาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งนายทัตติ ท่าทางมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด และให้การวกไปวนมาตลอด โดยใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 10 ชั่วโมง จากผู้เสียหายจึงกลายเป็นผู้ต้องหา
นายทัตติ ให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพราะทะเลาะกับภรรยา และอยากพักผ่อน ไม่อยากไปขายของ จึงกุเรื่องว่าตนเองถูกชิงทรัพย์ และได้นำทองรูปพรรณที่มีอยู่ไปขายที่ร้านทอง เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ได้เเจ้งข้อหา เเจ้งความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี