9 พ.ย.62 ภายใต้การอำนวยการของ ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า นายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภออาวุโส อ.ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่า นำโดย นายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า และนายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า พร้อมด้วย สมาชิก อส.สังกัด กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่7 ประกอบด้วยนายหมู่ใหญ่ชาตรี พรหมคีรี นายหมู่โทธีระสิทธิ์ จันเพชร์ สมาชิกเอกธำรง บำรุงมิตร สมาชิกเอกวิเชียร ธรรมบุตร สมาชิกเอกพรชัย แก้วประเสริฐ สมาชิกเอกทรงธรรม ชูช่วย สมาชิกตรี ชลชัย เชาว์พานิช อส.สุขสันต์ สมทรัพย์ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวสุวัฒน์ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ขณะกำลังขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว กรุงเทพมหานคร
เพื่อเก็บเงินลูกค้าที่บริเวณริมถนนบ้านสะพานพระ-บ้านพรุเตียว หมู่ที่ 9 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เข้าตรวจสอบภายในรถพบของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง นามบัตรกระดาษสีฟ้า ระบุข้อความบริการเงินด่วนทันใจ พบมีรูปภาพบุคคลทำการรับเงิน รูปบัตรประชาชนพร้อมระบุข้อความรายละเอียดการกู้ และรูปภาพการโอนเงิน และจะปล่อยเงินกู้ในเขตพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดพังงา
โดยจากการจับกุมได้ในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางศูนย์ดำรงธรรมที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่าได้รับแจ้งจากประชาชน (ไม่ประสงค์ออกนาม) ว่าในเขตพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า มีบุคคลลักลอบปล่อยเงินกู้โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 ต่อเดือน โดยจัดเก็บวันละ 1,000 บาทเป็นจำนวน 24 วัน พร้อมเก็บค่าเปิดบัญชีเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และบางรายก็เรียกเก็บดอกเบี้ย (รวมค่าเปิดบัญชี) ในอัตราร้อยละ 30-40 ต่อเดือนซึ่งเป็นอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
และมอบนามบัตรของผู้ปล่อยเงินกู้ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า โดยทางเจ้าหน้าฝ่าปกครองอำเภอตะกั่วป่า จึงได้วางแผนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการลาดตระเวน จนกระทั่งเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบเห็นรถเก๋งต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว กรุงเทพมหานคร ขับขี่อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.บางนายสี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่ยานพาหนะติดตามไป จนมาถึงที่เกิดเหตุ รถคันดังกล่าวได้หยุดจอดและผู้ถูกจับได้ลงมาจากรถลงไปพูดคุยกับหญิงไม่ทราบชื่อนามสกุล ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า จึงได้แสดงตัวและแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้นตัวผู้หา
จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำตัวผู้ถูกจับและของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนตะกั่วป่าที่ 7 ซึ่งทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากพฤติการณ์ของผู้ถูกจับข้างต้นเข้าข่ายเป็นการเรียกเก็บดอกเบี้ย (รวมค่าเปิดบัญชี)ในอัตราร้อยละ 30-40ต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ผู้ถูกจับรับทราบและเข้าใจสิทธิ์ของตนดีแล้ว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มาตรา 4 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี