บุรีรัมย์เกิดเหตุระทึกลูกชายหลอนกลัวคนจะมาตามฆ่า ใช้เคียวเกี่ยวข้าวจี้คอแม่บังเกิดเกล้าวัย 74 ปีขังไว้ในห้องนอนอดข้าวอดน้ำนาน 5 ชม. พี่สาวแจ้ง ตร.ช่วยเกลี้ยกล่อมแต่ไม่ยอมปล่อม สุดท้ายไปรับแฟนสาวมาช่วยกล่อมจึงยอมใจอ่อนปล่อยแม่ออกจากบ้านอย่างปลอดภัย ตร.คุมตัวส่ง รพ.เพื่อหาสาเหตุที่เกิดคลุ้มคลั่ง พี่สาวเผยก่อนใช้เคียวจี้คอแม่ปีนหลังคาบ้านนาน 2 วัน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านบ้านปิงเปน ม.1 ต.หลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีลูกชายใช้เคียวเกี่ยวข้าวจี้คอแม่ตัวเองเป็นตัวประกันขังไว้ภายในบ้าน เกรงจะได้รับอันตราย จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พร้อมทั้งได้ประสานหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และหน่วยกู้ภัยฯ ประจำยังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อคอยช่วยเหลือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นด้วย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีชาวบ้านยืนจับกลุ่มพูดคุยและมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุ คือ นายบุญเลิศ เกรัมย์ หรือแหลม อายุ 33 ปี ได้จับนางสมาน สุทธิ อายุ 74 ปี แม่บังเกิดเกล้าของตัวเองขังไว้ในห้องนอนภายในบ้านหลังดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 11.00 น. โดยใช้เคียวเกี่ยวข้าวจี้คอแม่ไว้ตลอดเวลา
จากนั้น พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมือง พร้อมเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าทั้งประตูและหน้าต่างบ้านถูกปิดล็อกไว้ทุกบาน จึงใช้วิธีปีนบันไดพูดเกลี้ยกล่อม เพื่อให้นายบุญเลิศ ยอมวางเคียวและปล่อยแม่ออกจากห้อง แต่นายบุญเลิศ ก็ไม่ส่งเสียงตอบอะไร เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนใช้วิธีเอาน้ำที่ใส่ยานอนหลับให้ดื่ม แต่นายบุญเลิศ ก็ไม่ยอมดื่ม ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและพี่สาวก็ผลัดเปลี่ยนกันพูดเกลี้ยกล่อมเป็นระยะๆ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมบันได และไม้ง่ามไว้หากจำเป็นจะต้องเข้าชาร์ทจับกุมตัว
หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมงแต่นายบุญเลิศ ก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยแม่ออกจากห้อง พี่สาวจึงให้ข้อมูลว่าน้องชายมีแฟนชื่อ น.ส.หน่อย อยู่ที่บ้านเขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัวมายังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อให้มาช่วยเกลี้ยกล่อมอีกทาง ซึ่งหลังจากที่แฟนสาวมาถึงก็ไปเกลี้ยกล่อมไม่นานนายบุญเลิศ ก็ยอมใจอ่อนปล่อยแม่ออกจากห้องโดยไม่ได้ทำอันตราย ทั้งยอมวางเคียวและมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่ามกลางความโล่งอกของลูกหลานและชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้เป็นแม่ไปตรวจร่างกายและสภาพจิตใจ ซึ่งไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายแต่มีอ่อนเพลียเพราะไม่ได้กินข้าวกินน้ำเป็นเวลานาน ส่วนนายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ ตำรวจก็ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายว่ามีสารเสพติดหรือไม่ หากมีสารเสพติดก็จะดำเนินคดีและส่งเข้าบำบัดรักษา
จากการสอบถามนางสมาน แม่ที่ถูกลูกชายจี้จับเป็นตัวประกัน บอกว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุกับลูกชาย และหลานอีก 3 คน ปกติลูกชายเป็นคนชอบดื่มสุราเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยก่อเหตุทำร้ายใคร แต่เมื่อ 2-3 วันก่อนลูกเริ่มมีอาการผิดปกติชอบเดินไปเดินมา และพูดว่าจะมีคนมาฆ่าเหมือนคนหลอน ถึงขั้นปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน เรียกก็ไม่ยอมลงมา กระทั่งมาวันนี้ก็ใช้เคียวเกี่ยวข้าวจี้คอตัวเองแล้วจับขังไว้ในห้องนอน ตนก็พยายามขอร้องให้ลูกปล่อยแต่ลูกก็ไม่ฟังจับขังไว้ในห้องต้องอดข้าวอดน้ำนานกว่า 5 ชั่วโมง
นางชนัชชา นีบัว อายุ 35 ปี พี่สาวผู้ก่อเหตุ เล่าว่า น้องชายไม่ได้ทำงานอะไรชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ ส่วนเรื่องจะเสพยาหรือไม่ตนเองก็ไม่รู้เพราะอยู่บ้านคนละหลัง แต่ก่อนหน้านี้ 2 วันน้องก็มีอาการผิดปกติคล้ายคนหลอนบอกว่าจะมีคนมาตามฆ่า และปีนหนีไปอยู่บนหลังคาบ้านใครเรียกลงมาก็ไม่ยอมลง บางวันก็ไปซ่อนในบ่อเกลอะ จนคนในบ้านรู้สึกกลัว กระทั่งล่าสุดวันนี้ก็มาใช้เคียวจี้คอแม่จับขังไว้ในห้อง หลังเกิดเหตุดังกล่าวก็อยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวน้องชาย ไปบำบัดรักษาทั้งเหล้าและยาเสพติด เพราะไม่รู้ว่าจะก่อเหตุอีกหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุว่าลูกชายจับแม่ขังไว้ในบ้านโดยใช้เคียวจี้คอแม่ด้วย จึงได้นำกำลังมาตรวจสอบและช่วยเหลือ โดยได้ทำการเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยแม่ออกมา จึงได้ไปรับตัวแฟนสาวให้มาช่วยพูดกล่อมอีกแรง จนผู้ก่อเหตุยอมใจอ่อนปล่อยแม่ออกมาโดยที่ไม่ได้ทำอันตรายอะไร ส่วนสาเหตุก็จะได้นำตัวไปตรวจร่างกายว่าเกิดจากการดื่มสุราหนัก หรือเสพยาเสพติด หากพบว่ามีสารเสพติดในร่างกายก็จะดำเนินคดีและส่งบำบัดรักษา ส่วนกรณีที่จับแม่เป็นตัวประกันและกังขังหน่วงเหนียวนั้นก็ต้องรอดูว่าทางญาติจะแจ้งความเอาผิดหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี