ปูพรมค้นยะลา-ปัตตานี
จับ6ผู้ต้องสงสัย
เอี่ยวสังหารชรบ.15ศพ
ยึดเป้สนาม/ผ้าพันแผล
ส่งตรวจพิสูจน์ยืนยัน
เศร้า9ศพที่วัดลำพะยา
12พย.เผาบนเชิงตะกอน
กำลังตำรวจ-ทหาร ปูพรมค้น 19 จุดปัตตานี-ยะลา คุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงถล่มจุดตรวจ ชรบ.ลำพะยาจ.ยะลา ดับ 15 ศพ ยึดเป้สนาม ผ้าพันแผลใช้แล้วเปื้อนคราบเลือดส่งตรวจดีเอ็นเอ เป็นหลักฐานมัดตัวด้านวัดลำพะยาเตรียมพิธีฌาปนกิจ9 ศพ บนเชิงตะกอน 12 พฤศจิกายนในขณะที่ข้ม ด้านจุฬาราชมนตรี ปลอบขวัญญาติเหยื่อ ประณามคนร้าย ชี้ฆ่าผู้บริสุทธิ์บาปใหญ่
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่จุดตรวจ ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา รวมทั้งมีการโปรยตะปูเรือใบ จุดไฟเผายางรถยนต์ 3 จุด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่าย ได้เปิดปฏิบัติการตามคำสั่งของ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เพื่อออกติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว
ปูพรมค้นปัตตานี-ยะลา19จุด
ทั้งนี้ พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบ.ฉก.ยะลา พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จว.ยะลา พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.อ.วรจิตร ศาสตร์ศิลป์ รอง ผบ.ฉก.ยะลา พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กกล.ทพ.จชต.และ ผบ.นปพ.ร่วมสนธิกำลังทหารและตำรวจกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.ปัตตานี รวม 6 จุด และใน จ.ยะลา รวม 13 จุด โดยเฉพาะในพื้นที่เขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ห่างจากจุดยิงถล่มจุดตรวจ ชรบ.ในพื้นที่ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ออกไปประมาณ 6 กิโลเมตร โดยเป็นการขยายผลจากการสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 2 ราย ที่ควบคุมตัวไว้ได้ก่อนหน้านี้แล้ว
รวบ6ผู้ต้องสงสัยคุมตัวเค้นสอบ
จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ไว้ได้ 6 คน พร้อมกันนั้นได้ตรวจยึดเป้สนาม ผ้าพันแผล ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะควบคุมตัวมายังกองอำนวยการร่วมชั่วคราวที่วัดลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งหมดอย่างละเอียด เนื่องจากพบพยานหลักฐานซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้นได้จากที่เกิดเหตุและการตรวจสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ เชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยบางราย นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัย พบว่าบางรายนั้นมีหมายจับ ป.วิอาญา ตาม พ.ร.ก.ติดตัวอยู่ด้วย
มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังหลบซ่อนตัวในพื้นที่เป้าหมายที่กำลังจะเข้าตรวจค้นเพิ่มเติม โดยพบว่ามีแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบเตรียมการจะเคลื่อนย้ายหลบหนี จึงมีการกระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมจะเข้าจู่โจมเข้าตรวจค้นจับกุมอีกครั้ง โดยเชื่อว่าน่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มอีกอย่างแน่นอน
พุ่งเป้ากลุ่ม“อับดุลเลาะห์ โต๊ะเต๊”
สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มนายอับดุลเลาะห์ โต๊ะเต๊ ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่ อ.เมือง อ.กาบัง อ.ยะหา และ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ร่วมกับกลุ่ม 3 พี่น้องตระกูลหลำโซ๊ะ ที่เคลื่อนไหวพื้นที่รอยต่อ 4 อำเภอของ จ.ปัตตานี
ส่วนที่ จ.ยะลา กำลังเจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานเป้สนาม อุปกรณ์สนาม และผ้าพันแผลจำนวนมาก บางส่วนได้ถูกใช้แล้ว และมีสภาพเปื้อนเลือด จึงมีการนำส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอ อย่างเร่งด่วน
หาดใหญ่คุมเข้มเฝ้าระวังเหตุร้าย
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้วางกำลังตรวจตราอย่างเข้มงวด ที่ด่านตรวจด้านความมั่นคงขาเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ ทั้ง 3 แห่ง บริเวณถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนวนิช และถนนนิพัทธุ์สงเคราะห์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ในช่วงเข้าสู่เทศกาลลอยกระทง และเป็นการป้องกันการเข้ามาเคลื่อนไหวก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกับเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังเกิดเหตุยิงถล่มจุดตรวจ ชรบ.ที่ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน
ยกระดับรปภ.พื้นที่เสี่ยงสูงสุด
นอกจากนี้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สงขลา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยงอย่างสูงสุด ทั้งเขตเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว เช่น อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา และ อ.เมือง จ.สงขลา รวมทั้ง 4 อำเภอชายแดน และให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการลอบทำร้ายจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
จุฬาราชมนตรีปลอบขวัญเหยื่อ
อีกด้านหนึ่ง ที่ วัดสิริปุณณาราม (วัดลำพะยา) หมู่ 4 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่เดินทางเข้าพบปะกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต 9 ราย จากเหตุคนร้ายบุกยิงถล่มป้อมจุดตรวจ ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดังกล่าว โดยมีนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา และนายทนง ไหมเหลือง นายก อบต.ลำพะยา ให้การต้อนรับ ซึ่งภายหลังการพบปะพูดคุยกับตัวแทนของญาติผู้สูญเสีย ทางจุฬาราชมนตรี ได้ให้กำลังใจพร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่งด้วย
ประณามคนร้ายกระทำเหี้ยมโหด
นายอาศิส กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพี่น้องประชาชนทั้งประเทศก็มีความรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกัน ขอประณามการกระทำอันโหดเหี้ยมที่กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ยิ่งกว่านั้นการกระทำดังกล่าวยิ่งทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ การอยู่ร่วมกันของพี่น้องชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ รวมถึงนอกพื้นที่ ซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สำนักจุฬาราชมนตรีเห็นว่าการใช้ความรุนแรงเป็นการกระทำที่ไร้มนุษย์ธรรม และละเมิดหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนาอย่างร้ายแรง
ย้ำชัดฆ่าผู้บริสุทธิ์เป็นบาปใหญ่
นายอาศิส กล่าวอีกว่า คำสอนของศาสนาอิสลามถือว่าการฆ่าผู้บริสุทธิ์เป็นบาปใหญ่ ดังปรากฏในพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอ่าน ความว่า “แท้จริง ผู้ใดฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ชีวิตหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล และหากผู้ใดช่วยรักษาชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้รักษาชีวิตมนุษย์ทั้งมวล”
สำหรับบรรยากาศที่วัดแห่งนี้ ยังคงมีญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านทยอยกันเดินทางมาเคารพศพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิธีบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจศพในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เวลา 13.00 น.จะมีการเผาศพแบบโบราณบนเชิงตะกอน ที่ทางวัดได้จัดวางไว้ทั้ง 9 เชิงตะกอน บริเวณลานวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ภาณุรัตน์ง”คารวะศพร.ต.อ.พลีชีพ
ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) รับผิดชอบดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคณะ เดินทางไปยังวัดลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อกราบศพ ร.ต.อ.พยุง คินขุนทด รอง สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต.ซึ่งเป็น 1 ใน 15 ผู้เสียชีวิต จากเหตุคนร้ายบุกยิงถล่มจุดตรวจ ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมกับเข้าเยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจครอบครัวของ ร.ต.อ.พยุง โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช.มีความห่วงใยต่อการสูญเสีย ร.ต.อ.พยุง โดยพร้อมจะดูแลด้านสวัสดิการให้เป็นไปตามระเบียบและสิทธิที่จะได้รับอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ทาง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งไว้ให้กับ นางพนิตนารถ คินขุนทด ภรรยาของ ร.ต.อ.พยุง และครอบครัวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี