ลุ้นผลกระดูก!ดีเอสไอยันหลักฐานมัด ปัดโต้‘ชัยวัฒน์’แฉจัดฉากฆ่า‘บิลลี่’

14 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดปทุมธานี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้สัมภาษณ์มีการจัดฉากให้ร้าย โดยใช้นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกระเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เป็นหนึ่งในตัวละคร ว่า ดีเอสไอทำคดีนี้ตามที่มีพยานหลักฐานปรากฏ ส่วนที่ถูกกล่าวหาจัดฉากไม่ขอตอบโต้ แต่ยืนยันว่าดีเอสไอมีหลักฐานเพียงพอ จึงขอศาลออกหมายจับ และหากสื่อติดตามการสอบสวนของดีเอสไอย้อนหลังก็จะเห็นภาพเหตุการณ์

ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า กระดูก 9 ชิ้น ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วยวิธีไมโทรคอนเดีย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่ากระดูก 9 ชิ้นเป็นกระดูกมนุษย์แน่นอน แต่ต้องนำไปสกัดดีเอ็นเอก่อนว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ และเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง จากนั้นจึงจะนำไปตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของมารดา แต่จะสามารถสกัดดีเอ็นเอได้มากพอจนวิเคราะห์เปรียบเทียบได้หรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่อง เพราะกระดูกบางชิ้นอาจจะสกัดดีเอ็นเอไม่ได้ เนื่องจากมีปริมาณไม่มากพอหรือมีความเสียหายมากจากการถูกเผา 

ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะทราบผลตรวจชัดเจนและจะส่งผลตรวจให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งรายละเอียดต้องรอให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้เปิดเผย เพราะเป็นหลักฐานทางคดี เราทำทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด โดยตรวจตามหลักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีไมโทรคอนเดีย ซึ่งเป็นหลักสากล และตรวจจากกระดูกที่มีคุณภาพสมบูรณ์ การตรวจของเรามีมาตรฐานสากลรองรับไม่แตกต่างจากต่างประเทศ

“ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่ามีการจัดฉากสร้างหลักฐานเท็จ เพราะกระดูกที่พบไม่ใช่กระดูกของนายบิลลี่นั้น ผมมั่นใจผลการตรวจวัตถุพยานที่ดีเอสไอส่งมา ซึ่งมีปริมาณเพียงพอที่จะวิเคราะห์เปรียบเทียบได้ และยืนยันไม่ว่าจะนำกระดูกส่งตรวจที่ไหนผลการตรวจก็ออกมาเหมือนเดิม เพราะใช้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว เชื่อว่าดีเอสไอก็มีหลักฐานอื่นที่มากกว่าวัตถุพยานที่ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าว