แฉกลหลอกเหยื่อ

เว็บพนันออนไลน์

ล่อดึงเด็ก-เยาวชน

ทำผิด กม.ไม่รู้ตัว

แฉกลยุทธ์การตลาดเหนือเมฆเว็บพนันออนไลน์ ทั้งล่อ ให้เล่นฟรีลวงให้ช่วยรีวิว -พรางว่าเป็นเกมสร้างรายได้ดึงเหยื่อเด็กและเยาวชน รู้ไม่ทัน ทำผิดกฎหมายไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่โรงแรมแมนดาริน ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันจัดเวทีเสวนาหัวข้อ“เปิดโปงการตลาดของธุรกิจพนันบนโลกออนไลน์”พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาดแบบ“ล่อ ลวง พราง”ของธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ถือเป็นการตลาดแบบเหนือเมฆเพื่อจะนำไปสู่การแสวงหาแนวทางป้องกันและลดผลกระทบจากการพนันออนไลน์

โดย ดร.ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่กล่าวว่าการพนันออนไลน์เป็นรูปแบบการพนันที่ต้องการดึงนักพนันหน้าใหม่ เข้าสู่วงการโดยกลุ่มคนที่เข้ามาเล่นการพนันรูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักเล่นหน้าใหม่ที่เป็นวัยรุ่นเพศชาย มีฐานะทางเศรษฐกิจสังคมดีและมีการศึกษาสูง การพนันออนไลน์จึงไม่ใช่การย้ายรูปแบบและวิธีการเล่นของกลุ่มผู้พนันเดิม ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดของเว็บพนันนั้นแรกๆอาจจะใช้วิธีการให้ทดลองเล่นโดยใช้เงินปลอม ไม่มีได้ไม่มีเสีย การให้ทดลองเล่นแบบที่ไม่ต้องเสียเงิน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เงินจริงอย่างง่ายๆจัดเป็นกลยุทธ์สำคัญที่กระตุ้นให้นักเล่นหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น

“การเล่นพนันแบบออนไลน์ถูกสร้างขึ้นเพื่อย้ายฐานกลุ่มผู้เล่นเดิมไปสู่รูปแบบการเล่นแบบใหม่ เพราะการไปเล่นที่บ่อนมีความเสี่ยงต่อการถูกจับกุมดำเนินคดี ขณะผู้ประกอบการก็ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงทั้งการจ่ายค่าส่วยหรือใต้โต๊ะ การทำแบบออนไลน์ถือเป็นการลดต้นทุนและเป็นการหลบเลี่ยงอุปสรรคทางกฎหมาย และเนื่องจากเว็บพนันออนไลน์เหล่านี้เป็นสิ่งที่กฎหมายบ้านเรายังเข้าไม่ถึง ทำให้ปราศจากความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นต่อผู้เข้าเล่นพนันไม่มีทั้งคำเตือน ไม่มีระบบจำกัดเวลาการเล่นไม่มีมาตรการคุ้มครองผู้เล่นทำให้ปัจจุบันเราจะเห็นข่าวคนถูกโกงจากการเล่นพนันออนไลน์กันเยอะมาก”ดร.ณัฐกร ย้ำ

ด้านนายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการด้านการสื่อสารมวลชนกล่าวว่ารูปแบบของสถานการณ์พนันปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวเด็กตั้งแต่ไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคม4.0การพนันมันเริ่มปรับเข้ากับชีวิตของคนมากขึ้นโดยทลายเหตุผลเชิงลบไปเรื่อยๆโดยใช้หลักการ1.ล่อ ด้วยการหว่านล้อมให้คนเข้าเว็บไซต์ จากการฟังเพลงดูหนังออนไลน์จากเว็บเถื่อนจากนั้นค่อยล่อให้คนเข้าไปเล่นต่อ หรือล่อให้คนเข้ากลุ่ม 2.ลวง คนจากเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ให้เข้าไปในเครือข่ายการพนันออนไลน์ด้วยการใช้สื่อบุคคล เน็ตไอดอลที่มีอิทธิพลตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งรับจ้างโฆษณาถือว่ามีความผิดตามกฎหมายมาตรา12 พ.ร.บ.พนัน และ3.พรางให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเข้าใจว่า เป็นเว็บบันเทิง และเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้ง่าย มีคนใช้งานเยอะ รวมถึงใช้ตัวอักษรพยัญชนะสระแปลกๆ โดยการสร้างชื่อเว็บเพื่อหลบเลี่ยงการถูกค้นหาตรวจจับ

ด้าน นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ระบุว่า จากการลงพื้นที่สำรวจพบแนวโน้มของเยาวชนไทยเข้าถึงการพนันออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มนักพนันหน้าใหม่ที่มีการเล่นสูงสุดจะมีช่วงอายุตั้งแต่15–25 ปี เนื่องจากผู้ประกอบการได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และปรับภาพลักษณ์จากการพนันออนไลน์ให้กลายเป็นเกมส่วนการสื่อสารก็จะปรับเปลี่ยนโดยจะไม่ใช้คำว่าการพนัน การเสี่ยงดวงหรือเสี่ยงโชค เพื่อให้เด็กและเยาวชนเข้าใจว่ากิจกรรมนี้เป็นการเล่นเกมออนไลน์แบบมีรายได้ ไม่ใช่การเล่นพนันและยังใช้กลยุทธ์นำบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อกลุ่มเด็กและเยาวชนเช่นนักเรียน นักศึกษา เน็ตไอดอลหรืออินฟลูเอนเซอร์ มาโพสต์รีวิวเว็บไซต์เพื่อโฆษณาเชิญชวนให้เล่นเกมที่สามารถสร้างรายได้ด้วยตนเองผ่าน เฟสบุ้ก ทวิตเตอร์ที่มีคนติดตามและกดไลค์จำนวนมาก โดยผู้โพสต์จะได้รับค่าตอบแทนโพสต์ละ1,000บาทและจากการสอบถามผู้ที่รับโพสต์งานดังกล่าวสวนใหญ่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนโพสต์นั้นเป็นการเชิญชวนเล่นพนันซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดพระราชบัญญัติการพนัน มีทั้งโทษจำและปรับ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างองค์ความรู้ให้คนกลุ่มนี้รู้

ขณะ นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการบริหารศูนย์กฎหมาย ม.ธรรมศาสตร์กล่าวว่าพ.ร.บ.การพนัน เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2478 ทำให้กฎหมายมีความล้าหลังที่จะนำมาควบคุมและปราบปรามการพนันออนไลน์ อีกทั้งภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญในการควบคุมแถมยังส่งเสริมให้คนเล่นการพนันโดยเฉพาะสลากฯ นอกจากนี้รัฐยังขาดมาตรการคุ้มครองเด็กจากการพนันรวมถึงไม่มีการส่งเสริมเครือข่ายการเฝ้าระวัง ทำให้หน่วยงานที่พยายามป้องกันเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากการพนันต้องปฏิบัติงานแบบตามมีตามเกิด ซึ่งช่องโหว่ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เด็กไทยมีโอกาสเข้าสู่วงจรพนันได้ง่ายขึ้น