"บิ๊ก สพฐ."ปรับเกณฑ์เตรียมพร้อมเปิดห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ตั้งเป้าเด็กจบ ม.6 ต้องผ่านเกณฑ์ B2 พูดภาษาอังกฤษกับต่างชาติได้
2 ธันวาคม 2562 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเน้นไปที่ห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ โดยมอบหมายให้ผู้อำนวยการสถาบันภาษาอังกฤษ ปรับหลักเกณฑ์ และจัดทำประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาภาษาอังกฤษทั้งระบบ เพื่อให้โรงเรียนที่มีความคล่องตัวในการเปิดห้องเรียนภาษาอังกฤษให้มากขึ้น คาดว่าจะจัดทำหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเสร็จได้ภายในเดือนธันวาคม 2562 หลังจากนั้นจะประกาศให้โรงเรียนสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ในปีการศึกษา 2563
ทั้งนี้ จะไม่กระทบกับประกาศการรับนักเรียนของโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2563 ซึ่งประกาศไปแล้ว โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เพราะโรงเรียนที่จะเปิดห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพิ่มส่วนใหญ่ไม่ใช่โรงเรียนแข่งขันสูง แต่เป็นโรงเรียนปกติทั่วไป สพฐ.คาดหวังว่าจะส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้นักเรียนที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษได้มาตรฐาน CEFR ระดับ B2 คือ นักเรียนสามารถมีพัฒนาการในการสื่อสารและเข้าใจภาษาอังกฤษได้
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีข้อสังเกตแม้นักเรียนจะเรียนวิชาภาษาอังกฤษผ่านมาตรฐาน CEFR ระดับ B2 แต่การสื่อสาร การพูดภาษาอังกฤษยังไม่ดีพอ จึงกำหนดว่าแม้นักเรียนจะได้ผลสอบระดับB2 แต่ต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศได้ด้วย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้น รวมถึงครูผู้สอนที่ต้องมีทักษะความสามารถได้มาตรฐานที่วางไว้ด้วย เบื้องต้นวางไว้ว่าจะต้องมีทั้งครูชาวไทย และครูต่างชาติ ส่วนปัญหาครูต่างชาติไม่เพียงพอนั้น ส่วนหนึ่งให้โรงเรียนเป็นผู้จัดหาเอง อีกแนวทางหนึ่ง รมว.ศึกษาธิการ อาจหารือกับทางสถานทูตประเทศต่างๆ เพื่อให้ส่งครูต่างชาติมาสอน เช่น ครูจากประเทศฟิลิปปินส์ เข้ามาช่วยสอน ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือเบื้องต้นไว้แล้ว
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือกรณีการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ ซึ่งคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) จะมีการหารือกันในวันที่ 6-8 ธันวาคม 2562 เพื่อกำหนดกรอบและแนวทางการจัดทำหลักสูตรใหม่ สำหรับกรอบการจัดทำหลักสูตรฯจะดูข้อดี ข้อเสีย ทั้งการจัดทำหลักสูตรแบบกลุ่มสาระวิชา หรือการจัดทำหลักสูตรที่ไม่เน้นตามกลุ่มสาระ แต่เน้นสมรรถนะทางการเรียนรู้ของเด็กเป็นสำคัญ โดยการปรับหลักสูตรครั้งนี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ให้ความสำคัญอย่างมาก ขณะที่ สพฐ.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ร่วมกับ กพฐ.ด้วย ส่วนการใช้หลักสูตรนั้นจะมี 3 สเต็ป คือ ปีการศึกษา 2563 เริ่มในโรงเรียนที่มีความพร้อมและสมัครใจจะนำไปใช้บางห้อง บางวิชา ส่วนปีการศึกษา 2564 ใช้บางโรงเรียน ใช้ทุกวิชา ทุกชั้น และในปีการศึกษา 2565 ใช้เต็มรูปแบบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี