ป่าไม้เปิดผลรังวัดที่ดินอ้างถูก‘ทวี’ฮุบ พบ'ลุงเสี้ยว'เอกสารถือครองครบ
5 ธันวาคม 2562 นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน เปิดเผยผลสรุปการเข้าตรวจรังวัดพื้นที่ดิน จากกรณีที่นายเสี้ยว นำพา อายุ 74 ปี ชาว อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และลูกสาวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการที่โรงยิมเนเซียม จ.ราชบุรี ก่อนประชุม ครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี อ้างว่าถูกนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บุกรุกที่ดินกว่า 30 ไร่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ป่าไม้ลุยรังวัดที่ดิน‘ลุงเสี้ยว’ หลังอ้าง‘ทวี’พ่อปารีณาบุกล้อมรั้ว ฮุบ 30 ไร่) ว่า จากการใช้เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS ตรวจแนวเขตที่ดิน โดยให้ลุงเสี้ยว พร้อมด้วยลูกสาวอีก 2 คน คือ น.ส.อำไพ และ น.ส.ปราณี นำพา เป็นผู้ชี้แนวเขตทั้งหมด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการนับจำนวนเสาปูนและต้นมะพร้าวที่นายทวีนำมาปลูก
ทั้งนี้ พบว่าลุงเสี้ยวมีหลักฐานเป็นใบ ภบท.5 ใบเสียภาษีมาตั้งแต่ปี 2517 และเอกสารยืนยันการถือครองที่ดินที่ถูกบุกรุกเป็นชื่อของ น.ส.อำไพ และ น.ส.ปราณี มาแสดง ซึ่งผลการตรวจสอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ยืนยันการครอบครองที่ดิน ตามโครงการสำรวจถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ และเอกสารของกรมป่าไม้ที่มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่กำกับตามแบบเอกสารราชการ
นอกจากนี้ยังมีเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 แสดงผลการตรวจสอบข้อมูลตามโครงการสำรวจถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าถาวรป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (หมายเลข 85) ประจำปีงบประมาณ 2559 จ.ราชบุรี ระบุข้อมูลการครอบครองที่ดินตรงกับการตรวจสอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) คือ น.ส.อำไพ ครอบครองที่ดินเนื้อที่ 23-2-79 ไร่ และ น.ส.ปราณี ครอบครองที่ดินเนื้อที่ 23-0-99 ไร่ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจรังวัดทั้งหมด 42 ไร่ 1 งาน 28 ตารางวา และพื้นที่บางส่วนไม่สามารถเข้าไปรังวัดได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่รก พบว่า ที่ดินของลุงเสี้ยวที่ได้ยกให้ลูกสาว 2 คนเป็นคนถือครองต่อ ที่อ้างว่าถูกนายทวี ยึดครอง ส่วนที่ 1 ของ น.ส.อำไพ จำนวน 7 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา ปัจจุบันถูกใช้ปลูกอ้อย ส่วนที่ 2 น.ส.ปราณี จำนวน 15 ไร่ 0 งาน 32 ตารางวา ถูกใช้เป็นที่ปลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถนับได้ทั้งหมด 500 ต้น เป็นมะพร้าวประมาณ 5 เดือน ส่วนเสาปูนที่ปักรั้วลวดหนามจำนวน 212 ต้น
นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวร ในโครงการสำรวจการถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร ซึ่งอยู่นอกเขตป่าสงวน โดยรัฐไม่เป็นผู้เสียหาย แต่เป็นความเสียหายระหว่างเอกชน คือ ทางลุงเสี้ยว และลูกสาว กับทางนายทวี เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการทางกฎหมายที่ทางลุงเสี้ยวได้เข้าไปดำเนินการแจ้งความไว้ที่ สภ.สวนผึ้ง เพื่อดำเนินคดีกับนายทวี โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะได้นำเอกสารและหลักฐานการตรวจรังวัดทั้งหมดส่งให้กับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมรายงานไปยังกรมป่าไม้ทราบผลการดำเนินการด้วย
“ส่วนประเด็นที่ว่าใครผิดใครถูกนั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่จะต้องส่งผลการตรวจวัดในครั้งนี้ยังพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการส่งสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ตรงนี้ผมไม่สามารถให้ข้อมูลได้ วันนี้เราตรวจสอบตามที่ผู้ร้องได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์มาเท่านั้น เราทำกันอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งตลอดการตรวจสอบก็มีสื่อมวลชนมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลอดเพราะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ” นายสุชาติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี