เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ร่วมกับ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. , พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.และ พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่เกาะสมุย ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยาน และแถลงข่าวกรณีแก๊งคนจีนตั้งฐานบนเกาะสมุย หลอกคนจีนเล่นหุ้นและแกมพนันออนไลน์ โดยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจ สภ.บ่อผุด นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมในพื้นที ม.1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังมีผู้เสียหายที่เป็นชาวจีนเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกกลุ่มคนจีนชักจูงให้มาทำงานบนเกาะสมุย พร้อมกับข้อเสนอที่พัก อาหาร และพาท่องเที่ยว แต่เมื่อมาถึงเกาะสมุยกลับพบว่าเป็นงานที่เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนจีนด้วยกัน จึงรู้สึกไม่สบายใจ และไม่อยากทำงานนี้ จึงได้มาแจ้งกับตำรวจท่องเที่ยวให้เข้าดำเนินการตรวจสอบ
จากการเข้าตรวจสอบพบชาวจีน 59 คน แบ่งเป็นชาย 47 คน หญิง 12 คน กำลังนั่งประจำตามห้องต่างๆและใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ซึ่งห้องพักหลายห้องจะถูกดัดแปลงเป็นห้องทำงานแยกกันเป็นห้องซื้อ-ขายหุ้น ห้องเกมพนันออนไลน์ แต่ละห้องจะมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาวางบนโต๊ะไว้หลายสิบเครื่อง พร้อมกับวางระบบสื่อสาร อินเตอร์เนต เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่ามี 21 คน มีหนังสือเดินทางประเภทนักท่องเที่ยว 60 วัน และอีก 38 คน ไม่พบหนังสือเดินทาง และยึดคอมพิวเตอร์ 71 เครื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่ 289 เครื่อง ซิมการ์ดมือถือทั้งเครือข่ายภายในประเทศและต่างประเทศ 123 ซิม บัตรอิเล็กทรอนิค 114 ใบ เงินสดสกุลไทย 203,566 บาท เงินสกุลดอลล่าร์ 704 ดอลล่าร์ เครื่องรับรหัส และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เนต
สำหรับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนจีนจะมีระดับหัวหน้า ผู้จัดการ และคนจัดหาพนักงานคนจีน พากลุ่มคนจีนเข้าประเทศไทยโดยทางรถตู้ และทางสายการบิน และนำอุปกรณ์มาตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์โดยจะเลือกสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในประเทศไทย โดยพฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้จะหลอกลวงจะชักชวนลูกค้าทางโปรแกรมวีแชทให้มาลงทุนซื้อ-ขายหุ้นของจีน และโน้มน้าวให้ลูกค้าเล่นการพนันออนไลน์ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมา จากนั้นเมื่อมีการซื้อ-ขายหุ้นหรือเล่นการพนันออนไลน์กันแล้ว ถ้าลูกค้าเล่นได้น้อยๆก็สามารถถอนเงินได้ แต่ถ้าลูกค้าเล่นชนะจำนวนมาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทำทีขาดการติดต่อและเชิดเงินหนีในที่สุด ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นอาชญากรรมร้ายแรง เป็นภัยต่อความมั่นคงต่อประเทศชาติ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติรายใหญ่ได้ ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่ทำให้เมืองท่องเที่ยวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ นักท่องเที่ยวมาเที่ยวด้วยความปลอดภัย มีความสุข ประทับใจ และจะไม่ปล่อยให้ใช้เป็นสถานที่ประกอบอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ผ่านมาก็ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศพันธมิตร ช่วยเหลือกันอยู่ตลอดเวลา และเราไม่ต้องการให้มีแบบนี้
เบื้องต้น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตอยู่ต่อในประเทศ จำนวน 21 คน และดำเนินคดีกับผู้ไม่มีหนังสือเดินทางในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 38 คน และติดตามตัวแกนนำชาวจีนอีกคนที่หลบหนี มาสอบปากคำต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี