เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล , เขื่อนสิริกิติ์ , เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ว่า ปัจจุบัน (12 ธ.ค.62) มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,468 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 4,772 ล้าน ลบ.ม.เพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น
ทั้งนี้ ในช่วงฤดูแล้งปี 2562/63 ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฤดูได้วางแผนจัดสรรน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.62 ถึงวันที่ 30 เม.ย.63 ไว้ประมาณ 4,000 ล้าน ลบ.ม.เป็นน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลัก 3,500 ล้าน ลบ.ม.และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาเสริมอีก 500 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบัน (12 ธ.ค.62) มีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 1,046 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 26 ของแผนจัดสรรน้ำฯ ซึ่งกรมชลประทานจะทำการควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด ส่วนด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในวันนี้ยังคงการระบายน้ำในอัตรา 80 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาจนถึงปากอ่าวไทย
สำหรับแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปีนี้ ได้วางแผนเพาะปลูกพืชทั้งประเทศ รวมทั้งสิ้น 2.83 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าวนาปรัง 2.31 ล้านไร่ พืชไร่ - พืชผัก 0.52 ล้านไร่ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ธ.ค.62) ได้ทำการเพาะปลูกทั้งประเทศรวม 1.46 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 51 ของแผนฯ แยกเป็นข้าวนาปรัง 1.39 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 60 ของแผนฯ และพืชไร่ - พืชผัก อีก 0.07 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 13 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาไม่มีแผนการเพาะปลูกพืชเนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนมีไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนด้านการเกษตร แต่จากการสำรวจพบว่าบางพื้นที่ได้ทำการเพาะปลูกพืชนอกแผนฯ รวมเป็นพื้นที่ประมาณ 1.15 ล้านไร่ ส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ของตนเองในการเพาะปลูก
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กรมชลประทานจะดำเนินการจัดสรรน้ำตลอดช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/63 ให้เป็นไปตามแผนฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และพืชที่ใช้น้ำน้อย ส่วนข้าวนาปรังเนื่องจากปริมาณน้ำมีไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก จึงไม่สามารถสนับสนุนได้ ต้องขอความร่วมแรงร่วมใจจากเกษตรกรลดพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรัง รวมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ว่า ปัจจุบัน (11 ธ.ค.62) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 45,469 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 64 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 21,988 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณเก็บกักน้ำน้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ ปัจจุบัน (11 ธ.ค.62) มีจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 73 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 59 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 47 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 28 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 10 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำเก็บกัก 520 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 21 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำเก็บกัก 24 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 16 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 23 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 24 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 20 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 21 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำเก็บกัก 286 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 283 ล้าน ลบ.ม.
ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำเก็บกักค่อนข้างน้อยถึงน้อยมาก ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะสงวนไว้ใช้สนับสนุนเฉพาะการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น กรมชลประทานจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ปี 2562/63 ที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า รวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพของอ่างเก็บน้ำ ลำน้ำ ลำคลอง และระบบนิเวศต่างๆ อีกด้วย
ทางด้านสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) แจ้งเตือนเขื่อนที่มีน้ำใช้การน้อยวิกฤต เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ -3% , เขื่อนจุฬาภรณ์ 6% , เขื่อนกระเสียว 7% , เขื่อนทับเสลา 12% , เขื่อนภูมิพล 14% , เขื่อนลำพระเพลิง 15% และ เขื่อนลำนางรอง 17%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี