ตร.ไล่ล่า‘สมคิด พุ่มพวง’

ฆาตกรต่อเนื่อง

คาดยังกบดานที่ขอนแก่น

หลังฆ่ารัดคอแม่บ้านรร.

ตั้งรางวัลนำจับ5หมื่นบาท

ตำรวจขอนแก่นประชุมไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่อง“สมคิด พุ่มพวง” หรือ “สมคิด เดอะริปเปอร์” ที่ล่าสุดพ้นคุกออกมาฆ่ารัดคอแม่บ้านโรงแรมดัง ทั้งยังมีข่าวไปโผล่หนองคาย อุดรฯแต่ยังหาตัวไม่เจอ ด้านราชทัณฑ์ หาทางป้อมกันเดอะริปเปอร์โมเดล ในการปล่อยนักโทษอุฉกรรจ์ หลังตำรวจออกหมายจับแล้ว

ที่ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผกก.สภ.กระนวน ตำรวจสืบสวนภาค 4 ตำรวจสืบสวน สภ.กระนวน ประชุมเพื่อแนวทางการติดตามคนร้าย คือ นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ลงมือฆ่ารัดคอนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี ภายในบ้านที่หมู่ 19 บ้านใหม่ชัยมงคล ต.หนองโก อ.กระนวน จากแหล่งข่าวที่มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลว่า พบตัวนายสมคิด ตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่น พบว่าเจอที่ตลาดพันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยระบุว่าได้มาบวชพระ แล้วมีผู้แจ้งเบาะแสไปยัง สภ.กุมภวาปี จากการตรวจสอบของชุดสืบสวนไม่ว่ามีพยานเห็นตัวนายสมคิด อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่าเจอตัวที่ จ.หนองคาย เช็กอย่างละเอียดก็ไม่พบเช่นกัน

สำหรับนายสมคิด หลังจากที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำ เดินทางเข้ามาที่ อ.กระนวน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 62 แล้วมาพักอยู่ที่โรงแรมแฮปปี้แกรนด์-กระนวน และได้รู้จักกับนางรัศมี ที่ทำงานเป็นแม่บ้านของโรงแรม โดยหลอกผู้ตายว่าตนเองทำงานเป็นทนายความ จนได้ติดต่อกันทางเฟชบุ๊ก จากนั้นเทียวมาหาผู้ตายเป็นประจำ จนเพื่อบ้านของผู้ตายทราบว่าได้เป็นแฟนกัน ก่อนที่นายสมคิดจะทำก่อคดีต่อเนื่องผู้ตายเป็นรายที่ 6

ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เผยว่าแนวทางในการหลบหนีของคนร้าย สันนิษฐานได้จากทางขนส่งมวลชน ทั้งรถยนต์ รถไฟ ประวัติการกระทำความผิด “สมคิด” ไม่ได้ติดต่อกับญาติ อาจจะติดต่อกับคนรู้จัก ซึ่งเรากำลังติดตามอยู่ ตรวจสอบสถานที่แอบอ้างคือกุมภวาปี ตอนนี้ยังไม่พบในทุกที่ที่ตรวจสอบ จากพฤติกรรมการก่อเหตุ หลังก่อเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ว่า นายสมคิด เป็นบุคคลอันตราย เตือนประชาชนให้ระวัง และแจ้งเบาะแสกับตำรวจด้วย ซึ่งบุคคลนี้เคยก่อคดีมาแล้ว 5 ราย อาจจะมีการก่อคดีอีกครั้งเป็นได้ ซึ่งหากแนวทางการสืบสวนสามารถเข้าจับกุมตัวคนร้าย ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่โดยเคร่งครัด

เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย โทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ด้าน พล.ต.ต.มาโนช สุภาพพูล ผบก.สส.ตำรวจภูธรภาค4 กล่าวว่า กรณีมีหมายจับ นายสมคิด พุ่มพวง ที่ลงมือฆ่ารัดคอ นางรัศมี มุลิจันทร์ หลังมีการเผยแพร่ภาพผู้ต้องหาออกไป เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ทำให้ตำรวจมีข้อมูลและเบาะแสของคนร้ายมากขึ้น การสืบสวนคืบหน้ามากขึ้นเช่นกัน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค4 จึงร่วมกับ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้ตั้งรางวัลนำจับ 5หมื่นบาท ซึ่งจะมอบให้กับพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสและที่อยู่อาศัยของคนร้าย จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้

ส่วนที่มีกระแสว่า นายสมคิด พุ่มพวง คนร้ายฆ่าสาวใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น หลบหนีมาปลอมเป็นพระในพื้นที่ ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และมีการแชร์และแจ้งเบาะแสทางเฟซบุ๊กของทางสถานีตำรวจกุมภวาปี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวตสอบตามวัดต่างๆ ในเขต ต.พันดอน หรือเมืองเก่า ไม่มีพระใหม่หรือคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยอยู่ โดยทั่วไปพระที่จะมาอาศัยหรือพระที่เดินทางมาจากที่อื่น จะต้องมีการตรวจสอบ หนังสือเอกสารใบสุทธิ ก่อนจะให้มาจำวัดภายในวัด

พระอดิศักดิ์ อุปะสะโม พระลูกวัด วัดจอมศรี ต.พันดอน บอกว่า เมื่อคืนนี้ตำรวจเข้ามาสอบถามตามวัดต่างๆ ซึ่งก็ไม่มี และวัดจะตรวจสอบพระที่เข้ามาอยู่ใหม่หรือมาบวชใหม่ต้องเมล์ใบสุทธิหรือเอกสารรับรองจากเจ้าโอวาทต้นสังกัดเท่านั้น จึงจะมาจำวัดที่วัดต่างๆ ได้

วันเดียวกัน เฟซบุ๊คของทาง “กองปราบปราม” ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนในโลกออนไลน์ว่าหากใครพบเบาะแสของนายสมคิด พุ่มพวง ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ให้รีบแจ้งทางกองปราบฯ ทันที โดยทางกองปราบฯ ได้โพสต์ภาพของนายสมคิด และจักรยานยนต์ที่คาดว่าน่าจะใช้ในการหลบหนี

โดยระบุข้อความในโพสต์ด้วยว่า “หากประชาชนท่านใดพบเบาะแส นายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาในเหตุฆาตกรรม หญิงสาวอายุ 51 ปี ที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เมื่อ 15 ธ.ค.62 สังเกตุที่คิ้วซ้ายจะมีรอยบาก แจ้งกองบังคับการปราบปราม ได้ที่ Facebook: กองปราบปราม Twitter: @CSDThailand Instagram: csdpolice Email: contact@csd.go.th โทร: 1195 แจ้งข้อมูลข่าวสารที่เป็นภัยต่อสังคม #ฆาตกรรม #ฆาตกรต่อเนื่อง #สมคิดพุ่มพวง #แจ้งเบาะแสสมคิดพุ่งพวง #กองปราบ #กองปราบปราม #CSD” ด้านชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการทำงานในครั้งนี้ พร้อมทั้งอยากให้จัดการขั้นเด็ดขาด ประหารชีวิตหรือวิสามัญไปเลย

ส่วน จ.หนองคาย ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย และศุลกากรหนองคาย ตรวจเข้มทั้งรถและบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก ด่านพรมแดนฯ รวมทั้งติดรูปถ่ายและหมายจับของนายสมคิด ไว้ประจำตู้จุดตรวจ นอกจากนี้ ยังสืบสวนหาข่าวตามจุดจอดเรือประเพณีและจุดผ่อนปรนไทย-สปป.ลาว เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้ตรวจสอบประวัติของนายสมคิด พบว่าไม่เคยมีภูมิลำเนาอยู่ที่หนองคาย ส่วนกรณีมีข้อมูลการขอย้ายนายสมคิด จากเรือนจำบางขวางมาเรือนจำจังหวัดหนองคาย เพื่อสะดวกต่อญาติมาเยี่ยม แต่จากการสอบถามไปยังเรือนจำจังหวัดหนองคายแล้วทราบว่าตลอดระยะเวลาที่นายสมคิด ถูกคุมขังไม่เคยมีญาติมาเยี่ยมเลย

พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีนายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ฆาตกรต่อเนื่อง ที่มีการระบุว่าเป็นคนพื้นเพ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และย้ายไปอยู่ จ.ตรังนั้น เท่าที่ได้มีการตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบข้อมูลใด ๆ ว่านายสมคิด เป็นชาวทุ่งสงหรือมีญาติพี่น้องอยู่ในทุ่งสง แต่ทางตำรวจนครศรีธรรมราชไม่ได้นิ่งนอนใจ และเพื่อความไม่ประมาท จะเรียกประชุมตำรวจทั้ง 23 อำเภอ เร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ทุกพื้นที่เร่งหาเบาะแส

คดีดังกล่าวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ระบุว่า เบื้องต้นยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเป็นความผิดพลาด จนต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน ต้องรอการชี้แจงจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก่อน กลไกการปล่อยตัวนักโทษ ประเภทโรคจิต และฆาตกรรมต่อเนื่อง ต้องรายงานให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกเดือน ดังนั้น จึงต้องดูว่าการปล่อยตัวได้ดำเนินการครบถ้วนตามขั้นตอนหรือไม่

“ผมได้ติดตามเรื่องนี้ และเห็นว่า จำเป็นจากนี้อาจต้องเพิ่มมาตรการป้องกันเพิ่มขึ้น” นายสมศักดิ์ กล่าว พร้อมยกตัวอย่างรูปแบบในต่างประเทศ ที่ใช้การติดอุปกรณ์ EM ผู้กระทำผิดในคดีร้ายแรง เพื่อเป็นระบบติดตาม และยอมรับว่า เป็นเรื่องที่อาจฝืนด้านมนุษยธรรม แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชน และว่า สิ่งที่คิดไม่ใช่วัวหายล้อมคอก มีการศึกษาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่มีข้อจำกัดที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เมื่อถามว่า จะต้องพิจารณาปรับเกณฑ์ผู้ได้รับการลดโทษแต่ละช่วงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องไปพูดคุยกันว่า จะทำอย่างไรให้เกิดความสมดุล