บุรีรัมย์เพื่อนบ้านปฏิเสธไม่ได้เป็นเจ้าของหมาที่ขย้ำ ด.ญ.3 ขวบ เสียชีวิต ปัดเป็นหมาจรจัดจากที่อื่นมาหากินเศษอาหารในหมู่บ้าน ครอบครัวเด็กไม่เชื่อเพราะเคยเห็นให้อาหารบ่อย เตรียมเข้าแจ้งความ ชาวบ้านบอกเห็นอยู่ในหมู่บ้าน 2 ปีแล้ว พฤติกรรมดุร้ายเคยกัดลูกวัว และไก่ตายยกเล้า ล่าสุดยังวนเวียนรอบหมู่บ้าน จนท.ปศุสัตว์ ท้องถิ่น และชาวบ้านช่วยกันไล่ล่าแต่ยังจับไม่ได้
ความคืบหน้ากรณีที่สุนัข คล้ายพันธ์อัลเซเซี่ยนผสมพันธุ์ไทย ขย้ำ ด.ญ.ชุติภา หรือ น้องแตงกวา อายุ 3 ขวบ ขณะตามปู่กับย่าออกไปดูควายที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านบ้านเขว้า หมู่ 4 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ธันวาคม 2562 โดยมีบาดแผลถูกสุนัขขย้ำที่บริเวณท้ายทอย ลำคอเป็นแผลเหวอะหวะ และตามร่างกายก็มีแผลคมเขี้ยวสุนัขกัดอีกหลายแห่ง นอนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้นำร่างน้องแตงกวาออกจากอาคารพักศพที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ กลับไปประกอบพิธีสวดอภิธรรมที่บ้านแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนายคมกริช ประประโคน และ น.ส.เจนจิราภรณ์ ไพรณรินทร์ พ่อและแม่ ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางครอบครัวจะทำพิธีสวดอภิธรรม 1 คืน แล้วก็จะนำร่างไปฝังที่วัดในหมู่บ้าน ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้หลังจากนั้นเมื่ออายุครบ 13 ปี จึงจะนำร่างออกมาประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณีความเชื่อ ซึ่งก็ได้มีญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่ทราบข่าวก็ได้เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก และไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
นายพินิจ ประประโคน อายุ 50 ปี ปู่ของน้องแตงกวา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและภรรยา ได้ออกมาดูควายที่ทุ่งนา โดยพาหลานมาด้วย พอมาถึงนาก็บอกให้หลานยืนรอ จากนั้นภรรยาก็เดินไปตักน้ำให้ควาย ส่วนตัวเองก็จะเอาหญ้าไปให้ควายที่ป่วยอยู่กลางทุ่งนา ซึ่งตนกับภรรยา อยู่ห่างจากจุดที่หลานยืน ประมาณ 30 เมตร ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ปรากฏว่าสุนัขตัวดังกล่าว อยู่ใกล้บริเวณทุ่งนาเลย และหันไปมองก็ยังเห็นหลานยืนรออยู่ที่เดิม ช่วงจังหวะที่กำลังให้น้ำและหญ้าควายเพียงไม่กี่นาที เดินกลับมาก็ไม่เห็นหลานแล้ว
ตอนแรกคิดว่าหลานอาจจะเดินกลับบ้านไปก่อนแล้ว แต่พอไปหาที่บ้านก็ไม่เจอจึงกลับออกมาช่วยกันตามหาที่ทุ่งนาอีกรอบ กระทั่งมองไปเห็นหมาตัวดังกล่าวยืนกัดอะไรสักอย่างแล้วสะบัดไปมาตอนแรกก็คิดว่าเป็นตุ๊กตา แต่พอเดินไปดูใกล้ๆ แทบช็อก เมื่อเห็นว่าสิ่งที่หมากำลังกัดคือ หลานสาวของตัวเอง จึงรีบวิ่งเข้าไปอุ้มหลาน ซึ่งหมดสติมีแผลเหวะหวะหลายแห่ง เข้าไปในบ้านก่อนจะรีบพาหลานไปส่งโรงพยาบาล แต่พบว่าหลานเสียชีวิตแล้ว รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ทั้งนี้ นายพินิจ ยังบอกอีกว่า เคยเห็นนางสมบัติ(ขอสงวนนามสกุล) เพื่อนบ้านเลี้ยงหมาตัวดังกล่าว หลายปีแล้วไม่ใช่หมาจรจัด ซึ่งทางครอบครัวก็เตรียมแจ้งความ เพราะอยากให้ผู้ที่เป็นเจ้าของหมาออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นางสมบัติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่ถูกระบุว่า เป็นคนเลี้ยงหมา ซึ่งได้เดินทางไปร่วมงานศพของน้องแตงกวาด้วย ก็ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของสุนัขตัวที่กัดน้องเสียชีวิต เป็นหมาจรจัดมาจากที่อื่นมาหากินเศษอาหารในหมู่บ้าน แต่ยอมรับว่าเคยให้เศษอาหารกิน แต่บ้านไหนมีอาหารก็จะไปกินบ้านนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เลี้ยงหรือเป็นเจ้าของ ที่ผ่านมาหมาตัวนี้ก็เคยมาขโมยกินไก่ของตนเองด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจ
นางสมอาง กางรัมย์ ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า เห็นหมาตัวดังกล่าวมาเพ่นพ่านอาศัยหากินเศษอาหารในหมู่บ้านประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งหมาตัวนี้มีพฤติกรรมดุร้ายมากเคยกัดไก่ของตนเองตายแล้วถึง 17 ตัว และไก่เพื่อนบ้านอีกหลายตัว ทั้งยังกัดลูกวัวของชาวบ้านตายไปหลายตัวเหมือนกัน แล้วยิ่งมาเกิดเหตุการณ์ขย้ำเด็กตายก็รู้สึกหวาดกลัวไม่รู้ว่าเป็นพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งจับให้ได้
ล่าสุด ยังพบหมาตัวดังกล่าววนเวียนอยู่รอบหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.โคกขมิ้น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านก็ช่วยกันล้อมจับแต่ก็ยังไม่สามารถจับได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลับพลาชัย ก็ระบุว่าทางญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ได้ไปแจ้งความ แต่หากมีการแจ้งความร้องทุกข์ก็จะดำเนินการสอบสวนไปตามขั้นตอน และต้องพิสูจน์ว่าสุนัขตัวดังกล่าวมีเจ้าของจริงหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี