สุดหดหู่ใจ พ่อแม่ติดยาบ้างอมแงม  ขังทำร้ายลูกติดเมีย ชาวบ้านเหลือทน ร้องเพจดังเข้าช่วยเหลือ

วันที่ 15 มกราคม 2567 นางสาวอาภา รัตนพิทักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม (พมจ.) พร้อมด้วย นายหัสพระชัย ภูวงค์หนู หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวนครพนม นายชัยเกียรติ ทุมรัตน์ ปลัดอำเภอเมืองนครพนม เป็นตัวแทนฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม รวมถึงคุณต้นอ้อตัวแทนจากเพจเป็นหนึ่ง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีชาวบ้านร้องเรียนผ่านเพจ"เป็นหนึ่ง" และนำเรื่องราวแฉถึงพฤติกรรมผัวเมียคู่หนึ่งติดยาบ้า ทำร้ายลูกชายสองคน ในบ้านพักแห่งหนึ่งพื้นที่บ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม ทำให้ชาวบ้านสุดทนพฤติกรรมโหดร้าย ที่ต้องทนเห็นเด็กทั้งสองถูกกระทำทารุณ แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียลดังกล่าว

เพจเป็นหนึ่งจึงประสานเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าตรวจสอบภายในบ้านพัก ซึ่งเป็นห้องเช่าลักษณะเป็นตึกแถวชั้นเดียว ในพื้นที่บ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม พบครอบครัวดังกล่าวอยู่ในห้องพัก ตามได้รับคำร้องเรียน ทราบชื่อนายภิรเดช (สงวนนามสกุล) หรือนายจ็อบ อายุ 34 ปี  พร้อมภรรยานางสาวพิรุณพร (สงวนนามสกุล) หรือน้ำฝน อายุ 28 ปี ส่วนลูกชายทั้งสองคนคนโตชื่อ น้องเฟส อายุ 10 ปี ศึกษาอยู่โรงเรียนในพื้นที่ แต่คนที่สองชื่อน้องโฟส อายุ 8 ปี ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ เพราะป่วยพิการทางสมองแต่กำเนิด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบร่างกายเด็กทั้งสอง มีรอยบาดแผลไม่ทราบสาเหตุตามร่างกายเล็กน้อย ไม่พบรอยบาดแผลทำร้ายร่างกายรุนแรง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบภายในห้องพัก พบอุปกรณ์เสพยาบ้า รวมถึงบ้องกัญชา แต่ไม่พบหลักฐานของกลางยาเสพติด จึงยึดและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ นายจ็อบ อายุ 34 ปี เป็นพ่อเลี้ยงของเด็กทั้งสองคน สารภาพว่าเสพยาบ้าพร้อมกับภรรยามานานหลายปี โดยตัวเองทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่เก็บขยะ ได้ค่าแรงวันละ 200 -300 บาท ส่วนภรรยาคือนางสาวน้ำฝน ไม่ได้ทำงานอะไร มีหน้าที่ดูแลลูกอย่างเดียว อาศัยอยู่ตามสภาพ

ส่วนกรณีทำร้ายลูก นายจ็อบยืนยันไม่ได้ทำร้ายขั้นรุนแรง แต่ทำร้ายตามประสาคนในครอบครัว เพราะลูกเลี้ยงดื้อคุยไม่รู้เรือง ใช้แค่ไม้แขวนเสื้อตี หรือใช้มือตีเท่านั้น ภายหลังเจ้าหน้าที่ ได้สอบประวัติ บันทึกหลักฐาน จึงได้นำเด็กชาย ทั้ง 2 พี่น้อง ไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครพนม  โดยมีนางสาวน้ำฝน ที่เป็นแม่ไปอยู่ด้วย เพื่อพิจารณาฟื้นฟูเยียวยาด้านจิตใจ ควบคู่กับการบำบัดรักษาเรื่องเสพยาเสพติด สำหรับนายจ็อบพ่อเลี้ยง จะนำเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูบำบัดต่อไป

ด้านคุณต้นอ้อ เจ้าของเพจเป็นหนึ่ง ที่ออกมาแฉพฤติกรรมพ่อแม่ติดยาบ้างอมแงม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเด็กชายทั้ง 2 คน อยู่ในความดูแลของแม่แท้ๆ กับพ่อเลี้ยง สอบถามเพื่อนบ้าน รวมถึงยายพิการหูหนวก ยืนยันว่าทั้งสองพี่น้อง เคยพ่อถูกทำร้ายจริง เป็นการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ที่ชาวบ้านพบเห็นตลอด รวมถึงเพื่อนบ้านเคยอัดคลิปเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ เพราะถูกทำร้ายส่งเป็นข้อมูลให้ตลอด สอบถามว่าเคยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ มาตรวจสอบช่วยเหลือ มีการเข้ามากล่าวตักเตือน สุดท้ายทำอีก จึงต้องการให้มีการช่วยเหลือในระยะยาว จึงประสานเจ้าหน้าที่ มาตรวจสอบช่วยเหลือร่วมกัน ขั้นตอนต่อไปจะได้นำเด็กทั้ง 2 คน ไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวฯ รวมถึงนำพ่อแม่ไปตรวจร่างกาย และเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยต่อไป

ทั้งนี้ เพจเป็นหนึ่ง ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากเพื่อนบ้าน กรณีพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ มีพฤติกรรมใช้ยาเสพติด และพ่อเลี้ยงมีอาการคลุ้มคลั่ง ชอบด่าทอและทุบตีลูกเลี้ยงทั้งสองคน และในบ้านยังมีคุณยายที่หูหนวกอยู่ด้วย ซึ่งชาวบ้านละแวกนั้นจะทราบดีว่าพ่อเลี้ยงคนนี้ ชอบทุบตีลูกเลี้ยงเป็นประจำ บางวันก็ขังเด็กไว้ในบ้าน และได้ยินเสียงเด็กร้องขอให้ปล่อยตัว บางวันเด็กร้องไห้จนสติแตก c9jพ่อเลี้ยงไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวเรื่องในครอบครัว พร้อมข่มขู่จะทำร้ายคนรอบข้างที่เข้าไปยุ่ง

ส่วนผู้เป็นแม่มีอาการหลอนยา บางครั้งจะออกมาร้องขอให้คนช่วยเหลือ แต่วันไหนปกติก็จะไม่พูดอะไร ตอนนี้ชาวบ้านหวาดระแวงและกลัวอาการคลุ้มคลั่งของพ่อเลี้ยง และสงสารเด็กที่อยู่ในบ้าน ที่ถูกทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง จึงแจ้งมาทางเพจเป็นหนึ่ง ให้ไปช่วยเหลือเด็กทั้งสองคน