ผัวหลอนยาบ้าสังหารเมียดับ อ้าง 16 ปีแห่งความแค้น ลูกสาวโต้แม่ให้อภัยนับครั้งไม่ถ้วน

ผัวหลอนยาบ้าสังหารเมียดับ อ้าง 16 ปีแห่งความแค้น ลูกสาวโต้แม่ให้อภัยนับครั้งไม่ถ้วน

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.20 น.

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ร.ต.อ.ยุทธพงษ์ สุราษา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านแพง จ.นครพนม ได้นำตัวนายธราดล  อายุ 51 ปี มาสอบปากคำหลังตกเป็นผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนสั้นขนาด .38 จ่อยิงนางศศิธร อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นภรรยาที่บริเวณแขนซ้าย กระสุนทะลุเข้าชายโครงฝังในปอด และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านแพง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา

นายธราดล ได้ให้การว่า คบรักใคร่ชอบคอกับนางศศิธร มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ขณะนั้นภรรยายังเรียนอยู่ที่ จ.สกลนคร เริ่มมีเรื่องระหองระแหงมาตั้งแต่ปี 2552 กรณีภรรยานำสวนยางพาราสวนแรกที่ตนปลูกเมื่อปี 2547 จำนวน 29 ไร่ โดยมียางพันกว่าต้น ในราคา 1,200,000 บาท ซึ่งในขณะนั้นราคายางอยู่ที่กิโลกรัมละ 80-90 บาท จึงเก็บความคับแค้นใจไว้ในอกจนถึงปัจจุบัน


ต่อมาทราบว่าเมียได้กู้เงินสหกรณ์มาซื้อรถเก๋งมือสอง ตนจึงไปขอเงิน 2 พันเพื่อไปสนามไก่ชน เมียบอกจะโอนให้แต่ก็ไม่โอน พอโทรไปถามก็ถูกด่าเสียๆหายๆ วันเกิดเหตุจึงขับรถจักรยานยนต์ไปหาเมียที่บ้านลูกเขย ลูกสาว อยู่บ้านนาพระชัย อ.บ้านแพง จ.นครพนม ห่างจากบ้านที่ตนอยู่ประมาณ 5 กิโลเมตร ก็บอกกับลูกสาวให้ไปขอเงินแม่ให้พ่อหน่อย 1 หมื่นบาท แต่ลูกสาวไม่สนใจจังหวะนั้นลูกเขยมาพอดี และเดินเข้าไปหาเมียตนที่อยู่ในห้อง ตนจึงเดินตามไปและเรียกออกมาคุยกัน แต่เมียไม่ยอมคุยด้วย โดยยืนบังหลังลูกเขยและไม่ยอมให้เงิน จึงบันดาลโทสะชักปืนที่เอวยิงใส่เมีย 1 นัด แล้วก็กลับไปนั่งกินข้าวที่บ้านพี่สาวอยู่หมู่ 2 ต.หนองแวง ตั้งใจว่ากินข้าวอิ่มแล้วจะไปมอบตัวกับตำรวจ มันเป็นความแค้นสะสมมาถึง 16 ปี ยอมรับว่ารักเขามาก แม้แต่ก้มกราบเท้าเมียก็ทำมาแล้ว ถ้ามีโอกาสก็อยากไปกราบศพขอขมา ให้หมดเวรหมดกรรมกันเสียที

พฤติการณ์ของคดีเกิดขึ้นวันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น. พ.ต.อ.จีรุฏฐ์  พิมพา ผกก.สภ.บ้านแพง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บ้านแพง ว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านแห่งหนึ่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงเดินทางออกไปตรวจที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 วางอยู่บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุจำนวน 1 ปลอก และทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือนางศศิธร  อายุ 54 ปี เป็นครูศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ต.หนองแวง ซึ่งถูกส่งรักษาบาดแผลอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านแพง และได้เสียชีวิตแล้วเนื่องจากหัวกระสุนฝังในปอด

จากการซักถามพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายธราดล อายุ 51 ปี เป็นสามีของผู้เสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุนายเมได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านลูกเขย และหลังจากก่อเหตุเสร็จก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนฑูตสังหาร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามหาตัวนายเม จนทราบว่ามาอยู่ที่บ้านพี่สาวจึงเข้าควบคุมตัว ตรวจค้นใต้เบาะรถจักรยานยนต์มีอาวุธปืนพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการซักถามเบื้องต้นถึงมูลเหตุจูงใจ นายเมอ้างว่าต้องการเงินจากเมีย 1 หมื่นบาท  โดยตลอดเวลาเมียยืนหลบอยู่หลังลูกเขยตลอดเวลา  และได้ถอยหลังจนสะดุดล้มลง ตนจึงได้ชักอาวุธปืนที่พกอยู่บริเวณเอว อ้อมตัวลูกเขยลั่นไกยิงนางศศิธรหรือครูติ๋ง 1 นัด จากนั้นได้หยิบกระสุนปืนที่ตนพกมาด้วยอีก 1 นัด บรรจุเข้ารังเพลิงเพื่อที่จะยิงซ้ำ แต่ครูติ๋งได้คลานหลบหนีเข้าไปในบ้าน ตนจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอยู่บ้านพี่สาว ต่อมาก็ได้มีตำรวจมาจับกุมดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะผลเป็นบวกฉี่เป็นสีม่วง ซึ่งนายเมยอมรับว่าเพิ่งเสพยาบ้าก่อนจะมาสังหารเมีย

 โดยจากการตรวจสอบประวัติคดีอาญา พบว่านายเมผู้ต้องหา เคยถูกจับดำเนินคดีมาแล้ว 2 ครั้ง ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) และข้อหามีอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้รับอนุญาต ทั้งสองคดีเกิดขึ้นเมื่อปี 2567

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพครูติ๋ง  ได้พบกับลูกเขยคือนายทัตเทพ อายุ 28 ปี และนางสาวธัญนาฎ  อายุ 28 ปี ลูกสาวของนายเมผู้ต้องหากับครูติ๋งผู้เสียชีวิต ก็กลายเป็นหนังคนละม้วน ตรงกันข้ามจากคำให้การของนายเม โดยลูกสาวเปิดเผยว่า มีความจริงเพียงบางส่วน ทุกอย่างเพราะพ่อเป็นคนก่อเอง แม่ให้อภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า พ่อทั้งเสพยาเสพติดถูกจับไปบำบัดนับครั้งไม่ถ้วน ล่าสุดเพิ่งออกจากสถานบำบัดได้เพียง 3 วันก็หวนกลับไปเสพยาบ้าอีก ทุกวันนี้พ่อไม่ได้ทำอะไร มีแต่มาขอเงินจากแม่ โดยพ่อจะพกปืนตลอดเวลา พร้อมข่มขู่จะฆ่าแม่ตลอด จนแม่ไม่กล้านอนบ้าน ต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูก ขณะที่นายทัตลูกเขยก็เล่าทั้งน้ำตาว่า จะหาคนที่ดีเท่าแม่ยายคนนี้ไม่มีแล้ว คิดอยู่สักวันต้องเกิดเหตุการณ์นี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหานายเมว่า  ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน และเสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง  ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top