ศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์กว่า 467 ล้านบาท “เสี่ยกำพล-ป๋าติ๊ก” เป็นธุระจัดหา ค้าประเวณี คดีอาบ อบ นวด “วิคตอเรีย ซีเคร็ต” มียอดเงินหักใช้หนี้บริษัทหลักทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท ที่เหลือเงินเข้ารัฐ ยังมีอุทธรณ์อีกยก

27 ธันวาคม 2562 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ 2 (ฟอกเงิน) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งทรัพย์สินของเครือข่ายสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเครท (ย่านพระราม 9) ตกเป็นของแผ่นดิน

คดีนี้อัยการรับสำนวนมาจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ให้ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินของ นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการอาบ อบ นวด จำเลยคดีอาญาร่วมกันค้ามนุษย์และค้าประเวณี กับพวก จำนวนทุนทรัพย์ 467,597,936.53 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานค้ามนุษย์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

เมื่ออัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ต่อมา นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรียฯ ผู้ต้องหาคดีที่อัยการสั่งฟ้องคดีร่วมค้ามนุษย์ไปแล้ว กับพวกรวม 15 คน ที่มีชื่อในทรัพย์สินนั้น ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ศาลแพ่ง ได้พิจารณาคำร้องของอัยการ และคำคัดค้านของเครือข่ายวิคตอเรียฯ แล้ว จึงมีคำสั่งว่า ให้ทรัพย์สินตามที่อัยการยื่นคำร้องดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ยกเว้นทรัพย์ที่บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) กับบริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)  ผู้คัดค้านที่ 2-3 ขอให้คุ้มครองไว้ในรายการที่ 27 และ 29 ซึ่งเป็นหุ้นในบริษัท อควาฯ ที่นายกำพล ผู้คัดค้านที่ 1 จะต้องนำมาชำระหนี้บางส่วน ให้กับบริษัทหลักทรัพย์ฯทั้ง 2 เสียก่อน ศาลจึงมีคำสั่งให้เอาหลักทรัพย์นั้นออกขายในตลาดหลักทรัพย์เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระฯ ผู้คัดค้านที่ 2 จำนวน 174,160,000 บาท และในส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาตฯ จำนวน 67,875,360 บาท รวมยอดหนี้ 242,039,360 บาท ขณะที่คำคัดค้านอื่นของนายกำพล ในฐานะผู้คัดค้านที่ 1 กับพวกอีก 13 รายนั้นฟังไม่ขึ้น

ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตามคำร้องของอัยการ ตกเป็นของแผ่นดิน โดยเท่ากับจำนวนทุนทรัพย์ที่ตกเป็นของแผ่นดินหลังจากหักส่วนที่ชำระหนี้ให้กับ 2 บริษัทหลักทรัพย์ฯแล้วประมาณ 225 ล้านบาทเศษ

นายประยุทธ ยังกล่าวถึงขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป ว่า คู่ความที่มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์ ยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ภายในเวลา 1 เดือนตามกฎหมายนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 (ฟอกเงิน) ได้ยื่นฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ ฟ.90/2561 เมื่อวันที่ 3 ส.ค.61 ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรียฯย่านพระราม 9 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานค้ามนุษย์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และฉบับที่ 4 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2558 มาตรา 3(2) จำนวน 41 รายการ โดยมีการสืบพยานอัยการผู้ร้อง และพยานฝ่ายนายกำพล ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์ร่วมใน 41 รายการ ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค.62

สำหรับ นายกำพล เจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครทนั้น อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ มีคำสั่งฟ้องร่วมทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการค้าประเวณีคดี โดยพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ขอศาลออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งปัจจุบันยังติดตามตัวมายื่นฟ้องไม่ได้ ก็คาดว่าจะหลบหนี โดยหมายจับมีอายุความในการติดตามตัวมาฟ้องภายใน 20 ปี

ส่วน นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก อายุ 67 ปี ผู้จัดการสถานบริการและผู้มีอำนาจในบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด นั้น ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จากคดีที่ศาลพิพากษาจำคุก 2 สำนวนเมื่อปี 2561 เป็นเวลาทั้งสิ้น 18 ปี 16 เดือน กรณีที่ถูกกล่าวหาร่วมธุระจัดหาค้าประเวณีเด็กสาวเมียนมา-ไทยอายุไม่เกิน 15 และไม่เกิน 18 ปี ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์