1 มกราคม 2563 ชาวพังงา พร้อมใจ ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี โดยมี นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน จำนวนมาก เข้าวัดประชุมโยธี (วัดอารามหลวงจังหวัดพังงา) เขตเทศบาลเมืองพังงา จ.พังงา โดยมี พระเทพปัญญาโมลี รองเจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี และ พระสงฆ์เกจิอาจารย์จากวัดต่างๆภายในจังหวัดพังงา สวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ ชีวิต ครอบครัว ญาติ เนื่องในคืนวันส่งท้ายปีเก่า 2562 และต้อนรับปีใหม่ 2563 ในกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ซึ่งเริ่มพิธีสวดมนต์ภายในวันอารามหลวงตั้งแต่ 23.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.62 กระทั่ง 00.09 น.ของวันที่ 1 ม.ค.63 นาย ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้ลั่นฆ้องเป็นสัญญาณว่าเริ่มต้นวันใหม่ในปีศักราชใหม่
จากนั้น พรเทพปัญญาโมลี รองเจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี ได้อ่าน สาสน์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ต่อด้วย คำอวยพรจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และ ทางพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญใส่บาตรดอกไม้ ตามพระพุทธรูปประจำวันเกิดของแต่ละคน พร้อมปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคล และส่งเสริมการทำความดีตามแนววิถีพุทธ เนื่องในวันขึ้นเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ ขณะที่ทางวัดได้เตรียมของที่ระลึกมอบให้แก่ประชาชนที่เข้ามาร่วมงานเพื่อนำไว้บูชาเป็นของขวัญปีใหม่ในครั้งนี้ด้วย
วันเดียวกัน เวลา 07.30 น.วันที่ 1 มกราคม 2563 บริเวณสะพานท่าเทียบเรือหน้าทอน หมู่ที่ 3 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และองค์กรภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่กว่าหนึ่งพันคนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จากวัดในอำเภอเกาะสมุยจำนวน 63 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ปี 2563 โดยมีพระมงคลทีปาจารย์ เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของเกาะสมุย ที่ชาวเกาะสมุยและชาวพุทธให้ความศรัทธาได้ให้ศีลและให้พรแก่ชาวเกาะสมุยขอให้เริ่มปีใหม่ด้วยหัวใจเบิกบาน ปัญหาที่เข้มาในชีวิตทุกอย่างจะแก้ไขได้เอง
สำหรับ พิธีตักบาตรในครั้งนี้เป็นการตักบาตรครั้งแรกบนสะพานท่าเทียบเรือที่มีความยาวสี่ร้อยเมตร โดยชาวเกาะสมุยกว่าหนึ่งพันคนได้นำลูกหลาน เข้าร่วมในพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ และยังเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ศรัทธาในพุทธศานาได้เข้าร่วมในพิธีตักบาตรนี้เช่นกัน ในพิธีตักบาตรรับปีใหม่ในครั้งนี้ท่ามกลางบรรยากาศเช้าวันใหม่ที่สดใสบนท่าเทียบเรือ
พิธีตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยนั้นก็เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตและครอบครัว รวมทั้งเพื่อเป็นการเริ่มต้นสิ่งที่ดีในปี 2563 และที่สำคัญยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมทีดีงามของชาวไทยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนไทยในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ให้พบแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิตของตนเองและของครอบครัว ด้านผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมทำบุญตักบาตรต้อนรับปีใหม่ และขอให้มีทุกคนมีความสุขตลอดปี 2563
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณแยกธนาคารกรุงไทย ใจกลางเมือง จ.พิษณุโลก นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นำพุทธศาสนิกชนชาวพิษณุโลกร่วมพิธีทำบุญกลางเมือง และตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุ 500 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2563 โดยพิธีทำบุญกลางเมืองเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่เป็นประจำทุกๆ ปี และในวันที่ 1 มกราคม 2563 นับเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต การทำบุญตักบาตรนับเป็นกิจกรรมที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
โดยกิจกรรมดังกล่าวเริ่มพิธีทำบุญกลางเมือง นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเริ่มพิธีสงฆ์ พระศรีรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวสัมโมถนียคาถา และ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวอวยพร แก่ประชาชนชาวพิษณุโลก ที่มาร่วมตักบาตร จากนั้นพระภิกษุ สามเณร จำนวน 500 รูป ออกรับบิณฑบาตตามถนนสายต่างๆ จำนวน 5 สายทั่วเมืองพิษณุโลก และมีพระครูประภัสสรสันติคุณ (ศักดิ์นรินทร์ กตสาโร) เจ้าอาวาสวัดจันทร์ตะวันตก ออกประพรมน้ำมนต์ตามถนนสายต่างๆ ท่ามกลางประชาชนมารอตักบาตรกันอย่างคึกคัก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ส่วน ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งถวายแด่พระสงฆ์ จำนวน 199 รูป พร้อมนำหัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการศาล และอัยการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหาร อปท. ประธานชุมชน พี่น้องประชาชนกว่า 1,000 คนพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้าชุดไทย นุ่งผ้าไทยใส่ผ้าซิ่นหลากสีกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีโดยพร้อมเพียงกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ นอกจากนี้ ผวจ.นครราชสีมายังได้กล่าวอวยพรพี่น้องประชาชน พร้อมมอบน้ำตาลทรายคนละ 1 กิโลกรับ จำนวน 500 ถุงให้กับประชาชน มีความหมายว่า ตลอดปีและตลอดไปขอให้พี่น้องประชาชนมีแต่ความสุขความสมหวังมีความรัก ความสามัคคี เสมือนน้ำตาลที่คงคุณค่าความหวาน พร้อมกับร่วมปล่อยปลาลงในคูเมืองนคราชสีมา
บรรยากาศในวันปีใหม่นี้พี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติต่างเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีกันอย่างเนื่องแน่น โดยรอบบริเวณลานอนุสาวรีย์มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามคืนโดยจัดเป็นลานวัดให้ประชาชนได้ทำบุญ มีพระพุทธรูป จำนวน 9 องค์ โดยมีการอันเชิญพระชัยเมืองนครราชสีมามาประดิษฐานบนบุษบก พร้อมการจุดเทียนลอย เพื่อความเป็นสิริมคล เพื่อให้เกิดความเบิกบานสบายใจ มีแต่ความสุข ความสว่างไสวตลอดปีและตลอดไป
ทั้งนี้ ที่บริเวณลานศิลปวัฒนธรรม หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี ได้มีการจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2563 ขึ้น โดยมี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ประธานฝ่ายสงฆ์ มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นำอาหารแห้งมาร่วมในพิธีจำนวนมาก
กิจกรรมเริ่มจากประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้น พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวสัมโมทนียกถาอวยพรปีใหม่ แล้ว นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวอวยพรปีใหม่แก่ผู้ร่วมงาน จากนั้นประธานฝ่ายสงฆ์ ขึ้นรถประพรมน้ำพระพุทธมนต์ จบแล้วเป็นพิธีทำบุญตักบาตร ซึ่งในปีนี้มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมากกว่าทุกๆปี และหลังจากเสร็จพิธีทำบุญตักบาตรแล้ว ผู้ร่วมกิจกรรมได้เดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองปัตตานี และพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงด้วย
ส่วน ที่ถนนคนเดิน "เซราะกราว วอล์คกิ้ง สตรีท" หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางธัญลักษณ์ วุฒิคุณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และพุทธศาสนิกชน กว่า 1,000 คน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 นอกจากเป็นการตักบาตรตามประเพณีที่จัดขึ้นทุกปีแล้ว เพื่อเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีและสืบสานศิลปะอันดีงาม ตลอดจนจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ โดยมี พระเทพปริยัตยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมอวยพรวันขึ้นปีใหม่ 2563 ให้กับพุทธศาสนิกชนชาวบุรีรัมย์
หลังจากนั้น นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และนายกมล เรืองสุขศรีวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวคำอวยพรวันขึ้นปีใหม่ ให้กับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนที่มาร่วมงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ โดยประธานสงฆ์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่ประชาชน ผู้มาร่วมทำบุญตักบาตร จากนั้นประธานสงฆ์ นำพระภิกษุ สามเณร จำนวน 409 รูป ออกรับบิณฑบาต
ขณะที่ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนภูผาภักดี อ.เมือง จ.นราธิวาส นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2563 โดยมีนายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส นายชุมสาย เทพลิบ รองนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส รองนายกเหล่ากาชาด จ.นราธิวาส และประชาชนร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
โดยพิธีดังกล่าวมีพระครูวิสิฐพรหมคุณ เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นเจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล พระครูวิสิฐพรหมคุณ แสดงสัมโมทนียกถาแก่พุทธศาสนิกชน เพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้นำประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 56 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ โดยเทศบาลเมืองนราธิวาสได้มอบปฏิทินและของที่ระลึกให้แก่ประชาชนเป็นของขวัญปีใหม่อีกด้วย
โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวอวยพรแก่ประชาชนที่มาร่วมทำบุญตักบาตร โดยขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติด้วยความไม่ประมาท และเนื่องในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ขอส่งความสุขและปรารถนาดีไปสู่พี่น้องประชาชน ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย และความดีที่ได้กระทำ บันดาลให้มีความสุข ความเจริญตลอดปีใหม่
ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังเก่า) นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นางนงค์นิตย์ เนียมศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ คณิต คงช่วย หัวหน้าสำนักงาน จ.กาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ประธานคณะกรรมการสันนิบาตสหกรณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนชาวกาฬสินธุ์จำนวนมาก ร่วมทำบุญตักบาตร พระภิกษุ สามเณร จาก 9 วัดของจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตของตนเองและครอบครัวและพร้อมรับสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันเริ่มต้นปี 2563 โอกาสนี้พระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ จาก 9 วัดได้ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ประชาชนที่มาร่วมทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ 2563 แก่ชาวกาฬสินธุ์ ว่า วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นวันเริ่มต้นที่ทุกคนต้องก้าวเดินต่อไปในปี 2563 ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย หลวงพ่อองค์ดำชุ่มเย็น พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ดลบันดาลประทานพรให้พี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ทุกคน ทุกท่าน มีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป
ขณะที่นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่บริเวณสนามกีฬาโรงเรียนกุดสิมวิทยาสาร โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2563 ต้อนรับปีหนูทอง
สำหรับ ที่วอร์คกิ้งสตรีท สตาร์ ไอที เซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.ระยอง นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง นางพิศมัย ศุภนันตฤกษ์ กรรมการบริหาร โรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่น นำประชาชนชาวระยอง และนักทอ่งเที่ยว ร่วมในพิธี ตักบาตร วันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2563 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมี พระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง ให้ศิล จากนั้น พระครูโสภิตปัญญากร เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่พระอารามหลวง พร้อมด้วยพระภิกษุ-สามเณร จำนวน 99 รูป บิณฑบาตรรับอาหารแห้ง ที่พุทธศาสนิกชนจำนวนมากได้นำสิ่งของมาใส่บาตร ได้แก่ ชา กาแฟ เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการทำบุญไถ่ชีวิตโคอีกด้วย
การตักบาตรกาแฟนั้น สืบเนื่องจากวัดป่าประดู่พระอารามหลวงได้เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในแต่ละวันมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ เดินทางมาศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่วัดวันละ 300 รูป ต้องฉันเครื่องดื่มตลอดทั้งวันที่ผ่านมาทางวัดป่าประดู่ ต้องจ่ายค่าชา กาแฟ เครื่องดื่มอื่นๆ นับแสนบาทในแต่ละปี
ดังนั้นจึงคิดว่าคนเราชอบทำบุญ บางครั้งชอบซื้อข้าวสารอาหารแห้ง ซื้อข้าวปลาอาหาร บางอย่างมาถวายพระก็ไม่ได้ฉัน ไม่ได้ใช้ บางอย่างต้องทิ้งหรือปล่อยให้หมดอายุ แต่ที่ไม่เคยเหลือทิ้งเลยก็เห็นจะเป็น เครื่องดื่ม ประเภทชากาแฟ เพราะที่วัดต้องใช้จำนวนมาก ซึ่งถ้าคนที่มาทำบุญได้ช่วยกันถวาย ชา กาแฟ ก็ได้บุญกุศลเหมือนกัน ช่วยให้วัดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ ชา กาแฟเป็นบุญที่เกิดประโยชน์ทั้งผู้ให้และผู้รับ เพราะสิ่งที่ใส่บาตร พระและญาติโยม ก็ได้ใช้ ได้ฉัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี