เจ้าของบ้านสุดหรูพูดอะไรไม่ออกเลย หลังเกิดเหตุสยองหนุ่มกำแพงเพชรฉลองปีใหม่เมาหนักเข้าบ้านผิดเดินเซล้มหัวฟาดดับคาบ้านหรู วงจรปิดจับภาพชัด

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 3 มกราคม 2563 พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหรูสองชั้น เลขที่ 86/9 ม.7 ภายในซอยหนองเกตุ 2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.ราชวัตร นามฉิมพลี สว.สอบสวน สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่แพทย์เวร เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยาร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรูหลังใหญ่สองชั้นบนเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา พบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ริมกำแพง ในสภาพสวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีดำ กางเกงขาสามส่วน ตรวจสอบมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ท้ายทอย เลือดแห้งเกรอะกรัง คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง โดยมีเจ้าของบ้านรอให้การกับเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชน ตรวจสอบในร่างกายยังพบเอกสารแสดงตัวบุคคลทราบชื่อคือนายมานัส แสนนอก อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดกำแพงเพชร และสร้อยคอทองคำสวมคออีก 1 เส้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมา ได้มีนายสุภาพ ไชยสัตย์ อายุ 56 ปี เป็นผู้รู้จักกับผู้ตายเดินทางมาตรวจสอบ โดยเปิดเผยว่า นายมานัส มีอาชีพเป็นช่างไฟ ไม่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย แต่เวลาเมาจะชอบเดินสะเปะสะปะไปเรื่อย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายมานัส ได้หายออกจากบ้านไป เนื่องจากในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ดื่มฉลองจนเมามาย แล้วก็เดินหายไป จนกระทั่งมีคนมาแจ้งว่าพบชายนิรนามตายอยู่ในบ้านของคนอื่นจึงเดินทางมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นนายมานัส จริงๆ นอกจากนี้ก่อนที่นายมานัส จะหายไปยังพูดเปรยกับตนเองว่า คิดถึงพ่ออยากกลับไปเยี่ยมพ่อช่วงปีใหม่แต่รถพังจึงยังไม่ได้เดินทางกลับ จนกระทั้งมาพบว่าเสียชีวิตดังกล่าว 

เบื้องต้นพ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถจับภาพวินาที ที่ผู้ตายเดินอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุในลักษณะคล้ายคนเมา แล้วสะดุดกระถางต้นไม้ล้ม แต่ก็ยังมีสติที่จะลุกขึ้นจับกระถางต้นไม้ตั้งดังเดิม จนกระทั่งพยายามพยุงตัวเดินโซซัดโซเซไปแล้วเสียหลักล้มจนศีรษะฟาดเข้ากับขอบปูนจนนอนแน่นิ่งไป สักพักก็พยายามพยุงร่างเดินออกไปล้มเสียชีวิตอีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน

อย่างไรก็ตามได้เก็บกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจชันสูตรพลิกศพ ยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป