ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา หลายหน่วยงานที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดสถานที่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปเที่ยวชม เรียนรู้กิจกรรมด้านการเกษตร ตามโครงการส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความสุขให้กับคนในชาติด้วยการดำเนินกิจกรรมเพื่อเป็นการสร้างความสุข กระตุ้นการใช้จ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน ซึ่งทราบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชนเหมือนอย่างเช่นทุกปีที่ผ่าน
โดยก่อนวันหยุดยาวปีใหม่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เจ้ากระทรวงพญานาค ตั้งโต๊ะแถลงแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2563 พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่า ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำจะเพิ่มแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยได้มีการสำรวจพื้นที่ที่คาดว่าจะสามารถสร้างเป็นแหล่งกักเก็บน้ำได้ เน้นในส่วนของแก้มลิงในบริเวณลุ่มน้ำต่างๆ ที่ได้มีการทำแผนที่สำรวจเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ จะส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ให้มีการนำศาสตร์พระราชาและเกษตรทฤษฎีใหม่เข้ามาเป็นนโยบายที่จะขับเคลื่อนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และมีมาตรการในการ “ลด ละ เลิก” การใช้สารเคมี พร้อมกับนำระบบการตลาดนำการผลิตมาใช้แก้ไขปัญหาสินค้าล้นตลาดและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ หาตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพื่อเพิ่มช่องทางในการขายให้กับผู้ผลิตสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสหกรณ์ เกษตรแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตร Young Smart Farmer ที่ต้องการจะสร้างความเข้มแข็ง เพื่อนำร่องในการปฏิรูปภาคการเกษตร หาแนวทางลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพการผลิตพร้อมทั้งพัฒนาการจัดส่งสินค้า (ระบบโลจิสติกส์) เพื่อลดการใช้จ่ายในการลดค่าขนส่งทุกประเภท สำหรับด้านการประมง จะบริหารจัดการประมงอย่างยั่งยืน ทั้งประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน โดยประมงพื้นบ้านได้มีการขึ้นทะเบียน ซึ่งขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนแล้วประมาณ 50,000 กว่าลำ ส่วนประมงพาณิชย์จะเร่งส่งเสริมให้รักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เพื่อให้สามารถทำประมงได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังจะเตรียมพร้อมในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เกษตรกร โดยวางมาตรการที่จะส่งเสริมรายได้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกร ทั้งการจ้างงานของกรมชลประทาน ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งงบประมาณไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ในขณะที่ไม่สามารถทำการเกษตรตามปกติได้ อีกทั้งจะมีการเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำทั่วประเทศ โดยเตรียมพันธุ์ปลา พันธ์กุ้งไว้ประมาณ 550 ล้านตัว และจะใช้เวลา 4 – 6 เดือน ทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถจับไปบริโภค หรือจับไปขาย เป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ที่มีความต้องการของตลาด ได้แก่ โค กระบือ แพะ และการแจกที่ดินทำกิน (ส.ป.ก.) ให้แก่เกษตรกรด้วย อีกทั้งจะตั้งศูนย์เทคโนโลยีทางการเกษตร (Agri-technology and innovation center: AIC) โดยจะมีการตั้งศูนย์ AIC ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ และการจัดทำข้อมูลสารสนเทศด้านการเกษตร (Big data) เป็นการเชื่อมโยงกับ 10 หน่วยงานหลัก ซึ่งจะทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์…
เปิดทำงานปีใหม่วันแรก นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แจ้งข่าวโครงการดีๆ สำหรับลูกหลานชาวสหกรณ์และผู้สนใจทั่วไป ด้วยการจัดทำ “โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร” โดยเปิดรับบุตรหลานสมาชิกสหกรณ์ และบุคคลทั่วไป ที่ต้องการกลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด เพื่อสานต่ออาชีพการเกษตรจากรุ่นพ่อแม่ ได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวมากยิ่งขึ้น และต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ให้หันมาประกอบอาชีพการเกษตร โดยมีสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมอาชีพการเกษตรที่มั่นคงให้กับคนรุ่นใหม่ โดยกรมจะดำเนินโครงการ 3 ปี ระหว่างปี 2563-2565 ในการพัฒนาและบ่มเพาะอาชีพการเกษตรเพื่อให้เป็นเกษตรกรมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง...
ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจที่จะหันมาประกอบอาชีพทำการเกษตรที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี ต้องมีที่ดินเป็นของตัวเองหรือสามารถเช่าที่ดินเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ โดยกรมฯจะประสานหน่วยงานต่างๆ เข้ามาให้การสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ในการทำการเกษตร ปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา ปศุสัตว์ ในรูปแบบเกษตรผสมผสาน หรือใช้หลักทฤษฎีใหม่ รวมถึงการใช้รูปแบบการทำเกษตรสมัยใหม่หรือเกษตรแม่นยำ และเน้นการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ตามความประสงค์ที่แจ้งไว้ในใบสมัคร รวมถึงการพัฒนาการใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์การผลิต แปรรูป ตลอดจนประสานภาคเอกชนในการจัดหาตลาดมารองรับผลผลิต พร้อมช่วยวางแผนการผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค...
ผู้ที่สนใจสามารถกรอกใบสมัครผ่าน QR Code ทางเว็บไซต์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ www.cpd.go.th หรือทาง Line และ Facebook : กรมส่งเสริมสหกรณ์ – CPD สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ และสหกรณ์การเกษตรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ หรือโทร.02281 3292 โดยเปิดรับตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2563 นี้ และจะประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกในการเข้าร่วมโครงการในวันที่ 2 มีนาคม 2563
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี