โจรใต้ยิงถล่ม
ค่ายปิเหล็งครบ16ปีปล้นปืน
มทภ.4ไฟเขียวตอบโต้ทันที
โจรใต้เหิมปล้นรถกระบะ บุกยิงถล่มกองรักษาการณ์ค่ายปิเหล็ง เย้ยเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้การนราธิวาส คาดก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ครบรอบ 16 ปี เหตุปล้นปืน ด้าน มทภ.4 สั่งปฏิบัติการเชิงรุก ตอบโต้คนร้ายอย่างทันควัน
เมื่อวันที่ 5 มกราคม พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.อ.เอกพล เลขนอก ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 48 นำกำลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เดินทางเข้าไปยังบริเวณสวนยางพารา บ้านปิเหล็งเหนือ หมู่ 6 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง เพื่อตรวจสอบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บท 8899 ปัตตานี ซึ่งคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้
ทั้งนี้ ทางทหารพราน กรมทหารพรานที่ 48 ได้ตรวจพบรถกระบะคันนี้ เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.วันเดียวกัน โดยมีคนร้าย 5-6 คน เป็นผู้ใช้รถกระบะดังกล่าวเป็นพาหนะ ก่อนจะลงมือใช้อาวุธสงครามเปิดฉากยิงถล่มใส่ กำลังของกองรักษาการค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ในห้วงเวลาประมาณ 21.45 น.วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบรถกระบะ ทางเจ้าหน้าที่พบลายนิ้วมือแฝงจำนวนมาก ติดอยู่ที่พวงมาลัยรถ ประตูทั้ง 2 ข้าง และภายในห้องโดยสาร รวมถึงบริเวณขอบกระบะบรรทุกด้านหลัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงเก็บรวบรวมไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวนติดตามคนร้าย จากนั้นได้นำรถกระบะคันนี้ไปเก็บไว้ที่ สภ.เจาะไอร้อง
ต่อมา พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่อาคารกองรักษาการค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พื้นที่หมู่ 7 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง โดยอาคารกองรักษาการแห่งนี้มีสภาพกระจกและฝาผนังด้านหน้ามีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน ส่วนด้านหลังของอาคาร พบลูกกระสุนปืนเอ็ม 79 ของคนร้ายที่ยิงใส่แล้วพลาดเป้าไปตกอยู่ด้านหลัง 1 ลูก นอกจากนี้บริเวณถนนหน้าค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบไว้บนถนนเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการติดตามไล่ล่า จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงเวลา 20.30 น.คืนวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา คนร้าย 5-6 คน แต่งกายชุดดำ ใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บท 8899 ปัตตานี ของ หจก.เซาท์สยาม มีเดียแอนด์ปริ้นติ้ง ซึ่งขับมาตามถนนในหมู่บ้านปะลุกา หมู่ 3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยมีนายแวมาเซ็ง หะยีแวน เป็นคนขับ และมีนายฮาเซ็ม เจ๊ะมะ นั่งคู่มาด้วย ก่อนที่คนร้ายจะจับนายแวมาเซ็ง และนายฮาเซ็ม มัดมือไพล่หลัง และใช้กระดาษกาวปิดปาก นำตัวทั้งสองไปทิ้งไว้ในสวนปาล์มของชาวบ้าน
จากนั้นคนร้ายจึงขับรถกระบะคันดังกล่าวออกจากพื้นที่ อ.ตากใบ ใช้เส้นทางสายใน ทะลุ อ.เจาะไอร้อง เมื่อผ่านถนนหน้าค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถ ได้ชะลอความเร็ว ส่วนคนร้ายที่นั่งอยู่ในกระบะหลัง ได้ใช้อาวุธสงครามนานาชนิด ยิงใส่อาคารกองรักษาการ 2 ชุดใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นคือการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 และกระสุนพลาดเป้าไปตกอยู่ด้านหลังอาคาร แล้วคนร้ายจึงพากันขับรถหลบหนีไป โดยมีการโปรยตะปูเรือใบ ไว้ด้วย เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงมาพบว่าคนร้ายได้จอดรถกระบะทิ้งไว้ที่สวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่บ้านปิเหล็งเหนือ หมู่ 6 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง ห่างจากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร โดย พล.ต.ต.นรินทร์ เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ลงมือก่อเหตุเป็นเชิงสัญลักษณ์ในวันครบรอบ 16 ปี เหตุการณ์ปล้นปืนจากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง
รายงานข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้พบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมีการเคลื่อนไหวในบางพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ถี่ขึ้น และในวันที่ 4 มกราคม ก็เป็นวันที่จะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในโอกาสครบรอบ 16 ปี วันปล้นปืน ซึ่งผู้ก่อเหตุอาศัยช่วงเวลานี้ในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ โดยทางแม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ทุกหน่วย ปฏิบัติการเชิงรุกในหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อจำกัดเสรีของผู้ก่อเหตุร้ายอย่างต่อเนื่อง ขอให้กำลังพลทุกนายมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ
รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติให้พลิกแพลง ไม่ปฏิบัติซ้ำๆ ทั้งพื้นที่และเส้นทาง ด่านตรวจ จุดตรวจและจุดสกัดหน้าฐานปฏิบัติการต้องมียาม มีความพร้อมอยู่เสมอในการยิงโต้ตอบ และการติดต่อสื่อสารกับกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม ในเขตชุมชนเมือง หรือพื้นที่ชุมชน ให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และตั้งจุดตรวจป็อปอัพ อย่างครอบคลุมทั่วถึง
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้จัดชุดลาดตะเวน ชุดเฝ้าตรวจสถานที่ เส้นทาง ระบบสาธารณูปโภคในจุดเสี่ยง ห้วงเวลา 13.00-24.00 น.และตรวจสอบข่าวสารความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และหามาตรการป้องกันโดยให้ทุกหน่วยยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี