วันที่ 6 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผลจาก ด.ต.พงษ์ศักดิ์ บุญมาศ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.บ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ตนเองได้นำรถยนต์มาจอดด้านหน้าบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด เพื่อเป็นการจองคิวเพื่อนำรถลงเรือเฟอร์รี่เที่ยวเรือ 05.00 น. แต่สุดท้ายพนักงานจำหน่ายตั๋วและพนักงานประจำท่าแจ้งว่ารถจะลงเรือเฟอร์รี่เที่ยวเรือเวลา 06.00 น.หรือเวลา 07.00 น.ทำให้ตนเองมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในการบริหารจัดการเรื่องการนำรถลงเรือเฟอร์รี่ เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้เชื่อว่าจะทำให้นักเที่ยวคนไทย นักท่อเที่ยวต่างชาติ และผู้ที่เดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ต่างมีความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาผู้โดยสารเรือเฟอร์รี่บริเษัทนี้ถูกเอาเปรียบมาตลอด
เรื่องดังกล่าวนายสมพงษ์ สันดี ผู้จัดการท่าเรือบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด สาขาเกาะสมุย กล่าวว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวตนเองเมื่อได้รับการประสานจากพนักงานได้เดินทางมาพูดคุยกับ ด.ต.พงษ์ศักดิ์ บุญมาศ ว่า เรื่องดังกล่าวได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ว่าจุดที่ ด.ต.พงษ์ศักดิ์ นำรถไปจอดนั้นไม่ใช่คิวแรกที่จะปล่อยรถลงเรือเฟอร์รี่ แต่เมื่อ ด.ต.พงษ์ศักดิ์ นำรถไปจอดแล้วได้กลับบ้านไป ทำให้ รปภ.ติดต่อไม่ได้ เมื่อ ด.ต.พงษ์ศักดิ์ มาที่รถเพื่อจะนำรถลงเรือเฟอร์รี่ จึงทำให้บนเรือไม่มีที่ว่างพอ แต่พนักงานได้แก้ปัญหาด้วยการให้รถที่จอดอยู่บนเรือขยับจอดให้จอดกันมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาและได้มีการพูดคุยพร้อมอธิบายให้ ด.ต.พงษ์ศักดิ์ ทราบถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นแล้ว
ด้าน ด.ต.พงษ์ศักดิ์ บุญมาศ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.บ่อผุด ในฐานะผู้โดยสารที่ใช้บริการเรือเฟอร์รี่ของบริษัทดังกล่าวได้เข้าพบ ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เพื่อร้องเรียนและชี้แจงถึงเรื่องทั้งหมดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากตนเองได้นำรถมาจอดเพื่อรอลงเรือตั้งแต่ 22.00 น.ของวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อจะลงเรือเที่ยวเวลา 05.00 น.ของเช้าวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็นรถยนต์คันแรกที่จอดรอคิว
จากนั้นก็มีรถกระบะมาจอดต่อท้ายเวลาเที่ยงคืน แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่ได้ลงเรือ โดยพนักงานห้องจำหน่ายตั๋วและพนักงานประจำท่าเรือแจ้งว่าระวางบนเรือเต็ม จะได้ลงเรือเที่ยวเรือเฟอร์รี่เวลา 06.00 น. หรือ 07.00 น.ทำให้ตนเองและเจ้าของรถกระบะต้องแปลกใจที่นำรถมาจอดรอทั้งคืน โดยในคิวก็ไม่มีรถทำไมจึงไม่ได้ลงเรือเที่ยวเวลา 05.00 น.ทั้งที่ตอนนำรถมาจอดบริเวณด้านหน้าบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด สาขาเกาะสมุย ก็มีรถไม่มาก ที่สำคัญถ้าบริษัทเรือเฟอร์รี่ใช้เหตุผลว่าจุดที่ตนเองนำรถมาจอดไม่ใช่คิวแรกที่จะให้ซื้อตั๋วเพื่อนำรถลงเรือทำไม รปภ.หรือเจ้าหน้าที่ของบริษัทไม่แจ้งให้ทราบ
ด.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนจึงได้ถามพนักงานจัดรถลงเรือว่ารถที่ลงไปในระวางของเรือเฟอร์รี่เที่ยวเรือ 05.00 น.ทั้งหมดนั้นเป็นรถที่มีการจองล่วงหน้าจำนวนกี่คัน และรถที่ไม่จองคิวจำนวนกี่คัน และอยากทราบว่าบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด การเปิดให้มีการจองคิวรถลงเรือผ่านบัตรสมาชิก ทำให้ยากรู้ว่าเรือเฟอร์รี่หนึ่งลำบริษัทเปิดให้ผู้มีบัตรสมาชิกจองเพื่อนำรถลงเรือได้กี่คัน เพราะการจองในลักษณะนี้ผู้ใช้บริการไม่มีใครรู้ว่ามีรถจองคิวจำนวนเท่าไหร่ และคิวปกติไม่ได้จองมีจำนวนรถกี่คันที่ได้ลงเรือ
ที่สำคัญเรื่องแบบนี้ตนเองได้รับรู้รับทราบมานานแล้วจากผู้โดยสารที่เป็นคนเกาะสมุย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการกับบริษัทเรือเฟอร์รี่รายนี้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งผู้โดยสารทุกคนที่ได้รับผลกระทบต่างมีความรู้สึกเหมือนกันหมดว่าบริษัทนี้กำลังเอาเปรียบสังคม ทำให้ปัจจุบันนี้กระแสเห็นด้วยที่จะให้เกาะสมุยมีสะพานเชื่อมระหว่างเกาะสมุยกับแผ่นดินใหญ่ เพราะจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า และจะทำให้มีเงินสะพัดมากขึ้นจากการท่องเที่ยว
"ที่สำคัญจะทำให้นักท่องเที่ยวและชาวเกาะสมุยสามารถเดินทางเข้าและออกจากเกาะสมุยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องมาอดหลับอดนอนเฝ้าท่าเรือเพื่อต้องการนำรถลงเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางออกและเข้าเกาะสมุยเหมือนปัจจุบัน ซึ่งนายอำเภอเกาะสมุย รับทราบเรื่องทั้งหมดแล้วจะนำปัญหานี้เข้าคณะกรรมการแก้ปัญหาระดับอำเภอต่อไป" ด.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี