ฝุ่นพิษเมืองกรุงพุ่ง
เกินมาตรฐาน23เขต
กทม.เร่งแก้ไขปัญหา
งัดกม.ห้ามเผาในที่โล่ง
กทม.ยังวิกฤติ ฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐาน 23 เขต สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เร่งจับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา เน้นให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมผู้ว่าฯกทม.งัด กม.เอาผิดเผาในที่โล่ง
เมื่อวันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่ กทม.โดยสรุปผลการตรวจวัดค่า PM2.5 ในเวลา 13.00-15.00 น.ตรวจวัดได้46-68 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ย58 มคก./ลบ.ม.โดยค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และยังมีค่าเกินมาตรฐาน
อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ รวม 23 เขต ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตจตุจักร เขตลาดกระบัง เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตพระนคร เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตบึงกุ่ม เขตสวนหลวง และเขตคลองสามวา
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่ กทม.จะมีเมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนรายงานความเค็มสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาวันที่ 6 มกราคม 2563 : ค่าความเค็มเกิน 1.2 กรัม/ ลิตร ควรระมัดระวังในการใช้กับพืชทั่วไป ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศของ กทม.แบบเรียลไทม์ได้ที่ www.bangkokairquality.com www.air4bangkok.com Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง
ด้านนายชาตรี วัฒนเขจร ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละอองดังกล่าว และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม สร้างจิตสำนึกในการลดมลพิษทางอากาศ เช่น ลดการเผาในที่โล่งทุกชนิด ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว สำหรับการควบคุมการเผาในที่โล่ง ทาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 กำหนดให้การเผาในที่โล่ง ได้แก่ การเผาหญ้า การเผาตอซังข้าว และการเผาขยะ เป็นแหล่งก่อเหตุรำคาญ ให้ ผอ.เขตทั้ง 50 เขต กำกับดูแลพื้นที่รับผิดชอบ หากมีผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจส่งผลให้เกิดไฟป่าและปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน จึงสั่งการให้ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และในฐานที่กำกับดูแลกรมฝนหลวงและการบินเกษตร วางแผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วเพื่อติดตามสภาพอากาศ และสามารถปฏิบัติการฝนหลวงได้เมื่อสภาพอากาศอำนวย และนอกจากบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ก็จะบรรเทาผลกระทบของฝุ่นละออง PM2.5 ได้มาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี