เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุข้อความว่า

“สามีคณบดีสถาปัตย์ มช.เผย ภรรยาเริ่มป่วยราว 1 ปี มีอาการไอและมีเลือดติดออกมา ก่อนตรวจพบ มะเร็งปอดระยะ 4 แพทย์ตรวจเนื้อเยื่อ พบ ‘ยีนส์กลายพันธุ์’ ผลจาก PM2.5

กรณี ศ.ดร.ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสียชีวิตด้วยมะเร็งปอด เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนดอกพระอารามหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ศาสตราจารย์ ดร.ระวิวรรณ ซึ่งนายจิตรกร โอฬารรัตน์มณี สามีของ ดร.ระวิวรรณ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภรรยาได้เริ่มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อประมาณเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ตอนแรกคิดว่าภรรยาป่วยเป็นลองโควิด แต่ช่วงหนึ่ง อ.ระวิวรรณ มีอาการไอ และมีเลือดติดออกมากับเสมหะ จึงตัดสินใจเข้าตรวจสุขภาพที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4

หลังจากนั้นทางแพทย์เจ้าของไข้ จึงได้วางแนวทางในการรักษา เริ่มจากการหาสาเหตุของการเกิดมะเร็งว่า มะเร็งปอดตัวนี้มันเกิดจากอะไร โดยการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจ พบว่าเป็นผลจาก PM2.5 ทำให้เกิดยีนส์กลายพันธุ์ขึ้น ซึ่งยีนส์กลายพันธุ์ตัวนี้มักจะเกิดผู้หญิงเอเชีย

นายจิตรกรกล่าวว่า อยากจะฝากถึงรัฐบาลว่า จริงๆ เราพบปัญหา PM2.5 มานานแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เกิดผลกระทบกับเราอย่างชัดเจน เราจึงไม่ให้ความสำคัญ แต่เมื่อวันหนึ่ง ถ้าคนในครอบครัว หรือตัวเราเอง ป่วยเป็นมะเร็งปอด เราจะรู้ทันทีว่า PM2.5 มันเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงมาก

ทั้งนี้ อยากให้กรณีของ อ.ระวิวรรณ เป็นกรณีศึกษาว่า หลังจากนี้ ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าใส่ใจในการแก้ไขปัญหามากกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดมันอาจจะไม่ทำให้ปัญหาหมอกควันหายไป แต่หวังว่าให้ลดความรุนแรงลงได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี

นายจิตรกรกล่าวด้วยว่า หลังจากคืนนี้ได้มีการทำบุญกุศลศพ อ.ระวิวรรณ เป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้ตนและครอบครัวจะมอบร่าง อ.ระวิวรรณ ให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อไปตามที่ อ.ระวิวรรณ เคยตั้งใจไว้”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ระยะเวลา 3 ปี! สูญเสีย อาจารย์ มช. จากมะเร็งปอด คร่าชีวิต 4 คน เชื่อผลพวง PM 2.5