เกิดเหตุสลดหนุ่มอุดรวัย 33 ป่วยเป็นโรคประสาทกำเริบ และขาดยาเกิดอาการหลอนคว้าปืนแก๊ปยิงกรอกปากตัวเองดับ เมียสุดเสียใจเพิ่งพาไปรับยาวันนี้แท้ ๆ แต่หมอนัดอีกวัน
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยโนนสูง ปฏิบัตืหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 202 ม.2 บ้านหลุบหวาย ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง นำกำลังตำรวจสืบสวน พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี รถกู้ชีพ อบต.บ้านตาด และอาสากูภัยมูลนิธิเมธาธรรมสถาน รุดตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูชั้นเดียวที่ยังสร้างยังไม่แล้วเสร็จ พบชาวบ้านและญาติผู้ตายที่ทราบข่าวมายืนมุงดู ภายในบ้านบนที่นอน พบศพนายอำพล บรรยงค์ อายุ 33 ปี นอนหงายเสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อยืดแขยสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นลายพราง ไม่สวมรองเท้า ที่แขนขวากอดอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ ยาวประมาณ 80 เซ็นติเมตร ลักษณะวางอยู่บนลำตัวเบี่ยงไปด้านซ้าย ที่พื้นพบกองเลือดปนมันสมองไหลนอง ที่ปากผู้ตายพบเลือดไหลออกมา ตรวจสอบตามร่างกายและรอบบริเวณในบ้าน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 30 นาที
จากการตรวจสอบสภาพศพและสอบสวนในที่เกิดเหตุในเบื้องต้น ตำรวจและแพทย์เวรระบุว่า พบบาดแผลขนาดใหญ่ในช่องปาก จากกระสุนปืนไม่ทราบขนาดฝังในศีรษะ คาดว่าผู้ตายใช้อาวุธปืนแก๊ปของตนเองปลิดชีวิตของตนเอง ในลักษณะการยิงกรอกปาก ส่วนญาติไม่ติดใจในสาเหตุ เนื่องจากผู้ตายพยายามฆ่าตัวเองมาแล้ว 3 ครั้ง จากอาการโรคประสาทกำเริบตอนขาดยา มีอาการหลอนปิดล็อกขังตัวเองไว้ในบ้าน ก่อนใช้อาวุธปืนของตนเองยิงกรอกปากเสียชีวิตคาที่ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะส่งศพและอาวุธปืน ไปตรวจสอบและชันสูตรให้ละเอียดอีกครั้ง ตามกฎหมาย ก่อนมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
สอบสอบสวน นางวิลาวัลย์ สิมมะลี อายุ 36 ปี ชาว ม.2 โนนเชียงค้ำ อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา และอยู่กินกับผู้ตายมา 2 ปี หลังจากทั้งคู่แยกทางกับอดีตสามีและภรรยา และทราบว่าผู้ตายมีอาการทางประสาท เคยคิดฆ่าตัวตามมาแล้ว 3 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุเช้าวันนี้ตนพาสามีขี่รถจักรยานยนต์ไปรับยาโรคประสาทที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แต่หมอนัดไปรับในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากสามีไม่ยอมไปรับยามากินต่อเนื่อง ก่อนพาสามีกลับไปกินข้าวที่บ้านของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านสามีประมาณ 2 กิโลเมตร
"สังเกตุอาการสามีมีอาการผิดปกติ ไม่ค่อยพูด หลังจากสามีกินข้าวเที่ยงเสร็จ ได้บขอตนขี่รถจักรยานกลับมาบ้าน ตนจึงโทรศัพท์มาบอกแม่สามีให้คอยดูสามีแทนหน่อย ส่วนตนกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์ตามไป เพราะเกรงว่าสามีจะคิดฆ่าตัวเองตายอีก แต่ก็สายเกินไป เมื่อทางญาติสามีโทรศัพท์มาบอกว่าใช้ปืนแก๊ปยิงกรอกปากตัวเองตายเสียแล้ว และทำอะไรไม่ถูกหลังทราบข่าว ส่วนปืนแก็ปเป็นของผู้ตายที่ใช้ไว้ยิงหนูนามาทำอาหารกิน"
ด้าน นายวิโรจน์ ลาบคำนูน ผญบ.ม.2 บ้านหลุบหวาย เปิดเผยว่า เมื่อตอนผู้ตายเป็นวัยรุ่น ติดเสพยาบ้าจนขาดสติและประสาทหลอน หนักเข้าเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ผู้ตายคิดจะฆ่าตัวเองในครั้งแรก ผู้ตายปีนหลังคาบ้านญาติตนเองเพื่อกระโดดหวังฆ่าตัวตาย ตนและผู้ช่วยพากันกล่อมจนยอมลงมา ก่อนควบคุมตัวส่ง สภ.โนนสูง นำตัวไปบำบัดรักษาอาการจิตเวชที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี จนอาการดีขึ้น ครั้งที่สอง ผู้ตายเมื่อครั้งเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ กทม.ได้ไม่นานอาการกำเริบหวังฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดสะพานลอยจนแขนขาหัก เพราะขาดยาและคิดว่าตัวเองหายดีแล้ว และญาติได้เดินทางไปรับตัวมารักษาตัวที่บ้านจนอาการดีขึ้น
"ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ่ปีที่ผ่านมา ผู้ตายหวังฆ่าตัวเองด้วยการกินน้ำยาล้างห้องน้ำที่บ้านญาติ ญาติช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.ล้างท้องทันจนอาการปลอดภัย จนมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ผู้ตายฆ่าตัวเองสำเร็จ ด้วยการใช้อาวุธปืนที่ ตนเองประดิษฐ์ขึ้นมาใช้ยิงหนูมาทำอาหาร ยิงกรอกปากตนเองเสียชีวิต ทั้งนี้เป็นผลพวงจากพิษของยาบ้าทำให้ผู้ตายประสาทหลอนเมื่อขาดยารักษา จนทำให้พบจุดจบด้วยการฆ่าตัวเองตายในที่สุด"
ส่วน นางสะวัส โอนชัยภูมิ อายุ 54 ปี แม่ผู้ตาย ให้การว่า มีลูกชาย 3 คน ผู้ตายเป็นคนโต มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง และรับจ้างทั่วไป และเคยฆ่าตัวเองมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จนมาสำเร็จในครั้งนี้ เนื่องจากลูกชายมีอาการทางประสาทขาดยารักษา คิดว่าตนเองหายดีแล้วก็ไม่ยอมไปรับยามากิน จนทำให้เกิดอาการหลอนกลัว และบางทีมีอาการซึมเศร้า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ที่กระท่อมนา ลูกสะใภ้โทรมาบอกว่าลูกชายกลับมาบ้าน และใช้ปืนยิงกรอกปากตัวเองตาย ไม่คิดว่าลูกชายจะมาจบชีวิตตัวเองเช่นนี้ รู้สึกเสียใจมาก และไม่ติดใจในสาเหตุการตายแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี