“สมศักดิ์” ขีดเส้น มิ.ย. 63 กฎหมายผ่านสภาฯ ปลดล็อกกระท่อมพ้นยาเสพติด -ประสานกระทรวงทรัพย์ฯ เพาะต้นกล้ากระท่อม “พันธุ์นาสาร” แจกชาวบ้านปลูก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทดแทนการนำเข้ายา-มอร์ฟีน
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค ถนนราชปรารภ กทม. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการเสวนารับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ...) พ.ศ…………….
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายมีความพร้อมประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 22 ม.ค.นี้ จะนำร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ...) ที่มีการแก้ไขปลดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพให้โทษ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ส. และคาดว่า จะเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 3 มี.ค. หลังจากนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณารายละเอียด ก่อนนำกลับเข้าครม.เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯตามขั้นตอน เบื้องต้นเชื่อว่า คงไม่มีใครคัดค้านการปลดล็อคกระท่อม แต่ไม่มีกฎหมายฉบับใดที่จะผ่านสภาฯ 3วาระรวด ยังต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา ซึ่งประเมินว่า สภาฯจะพิจารณาผ่านร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จประมาณวันที่ 10 มิ.ย.63
“กระท่อมถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติดผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2485 แม้จะมีความพยายามยกเลิกแต่ยังติดขัดเหตุผลบางอย่าง ปัจจุบันในสภาฯไม่มีส.ส.คนใดคัดค้านการปลดกระท่อมออกจากยาเสพติด ตรงกันข้าม ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่า มีการศึกษาให้ยกเลิกกระท่อมตั้งแต่ ปี 2546 เหตุใดจึงยังทำไม่ได้ ผมไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่รู้ไส้ในว่ากฎหมายต้องประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง แต่สิ่งที่ทำได้ คือ กำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน ว่าการปลดกระท่อมออกจากยาเสพติดจะสำเร็จเมื่อใด และผมยังคาดหวังให้มีการพัฒนาวิจัยกระท่อมเพื่อนำไปเลิกยาบ้า ยาไอซ์ ถ้าทำได้จะเป็นประโยชน์กับคนทั้งโลก เรื่องกระท่อมเราช้ากว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะคุณสมบัติดีๆมีอยู่มาก ถ้าช้าก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะจะไปกระทบผลประโยชน์ เราจึงต้องเดินหน้าเรื่องกระท่อมให้เร็วที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงสถิติคดีที่เกี่ยวกับกระท่อมว่า ตั้งแต่เดือน มค.- ต.ค.62 มีจำนวน 50,000 คดี ผู้ต้องหาบางรายติดคุก 15 วัน บางรายเสียค่าปรับ หากคิดเป็นค่าใช้จ่ายทางคดีนั้น รัฐจะมีค่าใช้จ่ายทางคดีที่ต้องจ่ายให้กับตำรวจ อัยการ และศาล ประมาณคดีละ 20,000 บาท หากกระท่อมไม่เป็นความผิดตามกฎหมายจะสามารถประหยัดงบประมาณของรัฐไปได้ 1,000 ล้านบาทต่อปี
เมื่อถามถึงการคัดค้านไม่ให้ปลดกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ข้อขัดข้องมีเพียงเรื่องของผลประโยชน์เรื่องเดียวเท่านั้น เพราะกระท่อมมีสรรพคุณในเรื่องการบรรเทาอาการปวด ใช้ทดแทนมอร์ฟีน หากมีการพัฒนาเป็นระบบอุตสาหกรรมทางยาก็จะมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและลดการนำเข้ายา ส่วนข้อกังวลเรื่องการลักลอบนำเข้าใบกระท่อมจากต่างประเทศนั้น เชื่อว่าหากมีการปลดล็อคพืชกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติดแล้ว ป.ป.ส. จะหาทางแก้ปัญหาได้ อาจจะให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดำเนินการเพาะพันธุ์ต้นกล้ากระท่อมแจกประชาชนให้ปลูก แต่ต้องดูเรื่องความเหมาะสมด้วยว่าจะอนุญาตให้ปลูกหมู่บ้านละกี่ต้น ตอนนี้มีต้นกระท่อมที่จะเป็นจะใช้เป็นพันธุ์ที่ดี สามารถเพาะแจกจ่ายให้ประชาชนได้แล้ว โดยอยู่ในแปลงนำร่องที่ อ.นาสาร จ.สุราษฎร์ธานี อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่กระท่อมยังไม่ได้ปลดล็อคก็อย่าเพิ่งอวดอ้างการปลูกและการใช้ทางยา ขอให้อดใจรอ หากปลดล็อคแล้วมีการรณรงค์ให้ปลูก ค่อยปลูก ตอนนี้ใครปลูกก่อนต้องถูกตัด
ด้านนายวิชระ อำพนธ์ ที่ปรึกษาองค์การอาหารและยา(อ.ย.) กล่าวว่า ประเทศไทยออกกฎหมายควบคุมกระท่อม เพราะในอดีตกระท่อมกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีฝิ่น ทำให้กระท่อมถูกกำหนดเป็นยาเสพติดจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมามีความพยามปลดกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติด แต่ต้องสะดุดเมื่อถูกตรวจสอบพบว่ามีการนำกระท่อมไปผสมเป็น 4x100 มีการใช้อย่างแพร่ระบาด และเผยแพร่สูตรปรุงยาผ่านอินเทอร์เน็ต ดังนั้น เมื่อมีการปลดล็อคกระท่อมก็ยังจำเป็นต้องควบคุม โดยอนุญาตให้ใช้ตามใบสั่งยาของแพทย์ ห้ามไม่ใช้เพื่อสันทนาการ
ขณะที่นายอนันต์ชัย อัศวเมฆิน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า กระท่อมออกฤทธิ์ เหมือนฝิ่น แต่เสพติดน้อยกว่ามาก กรณีการปลดล็อคกระท่อมของไทยมีแนวโน้มที่ดี เพราะไม่เดินตามฝรั่งแต่ทำตามแบบวิถีไทย ต่างจากกัญชาที่เลียนแบบต่างประเทศ ทั้งๆที่เรามีแพทย์แผนไทย หลังปลดล็อคให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ครบ 6 เดือนจะมีการประเมินผล ซึ่งจะพบว่าระเบียบที่ออกไม่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี