'สมศักดิ์'เผยไม่พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์เพิ่ม ยังป่วยรวม 4 ราย ส่วนผู้สัมผัสทั้งหมด 636 ราย พ้นระยะเฝ้าระวังทางผิวหนัง-ทางเดินอาหาร ครบ 7 วันแล้ว เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังใกล้ชิด หากพบสัตว์ตายผิดปกติ 'ห้ามสัมผัส-ห้ามชำแหละ-ห้ามเคลื่อนย้ายซาก' แนะเลี่ยงบริโภคแบบไม่ปรุงสุก
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ จ.มุกดาหารว่า ล่าสุดไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ โดยยังมีผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 4 ราย ซึ่งเสียชีวิต 1 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย ที่ รพ.มุกดาหาร และรักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย ส่วนผลการเฝ้าระวังผู้สัมผัสทั้งหมด 636 ราย ได้สิ้นสุดระยะเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ทางผิวหนัง และทางเดินอาหาร ครบ 7 วัน ทำให้ขณะนี้ ไม่มีผู้สัมผัสที่อยู่ในระยะเฝ้าระวังโรคแล้ว แต่ตนก็ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดด้วย โดยหากพบสัตว์ตายผิดปกติ ห้ามสัมผัส ห้ามชำแหละ ห้ามเคลื่อนย้ายซาก โดยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที
“ผมขอเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงโรคแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สร้างสปอร์ได้ ทนต่อความร้อน สารเคมี และมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานกว่า 10 ปี โดยพบมากในสัตว์กินหญ้า เช่น โค กระบือ แพะ แกะ ซึ่งสัตว์ที่ติดเชื้อจะตายอย่างรวดเร็ว สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้โดยตรง หากมีการสัมผัสกับเลือด เนื้อ หรือ อวัยวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยหากป่วยอาการรุนแรง มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 80 ดังนั้น พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ควรเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง คือ 1.สัมผัสผิวหนัง หรือ ชำแหละสัตว์ที่ป่วยตายผิดปกติ โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน 2.การหายใจ สูดดมเอาฝุ่นดินที่มีเชื้อสปอร์เข้าไป และ 3.การบริโภคเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ แบบไม่ปรุงสุก” รมว.สาธารณสุข กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี