พบ2พี่น้องชาวศรีสะเกษ
ป่วยโรค”ดักแด้”ทรมาณ
ต้องอาบน้ำวันละ10รอบ
วอนรัฐผู้ใจบุญช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าว“แนวหน้า”ได้เดินทางไปพบกับสองพี่น้องที่มีอาการผิดปกติตามผิวหนัง โดยลักษณะของผิวหนังจะเกิดแผลคล้ายเกล็ดปลาหรือเกล็ดงูขึ้นเต็มทั่วตามร่างกาย ซึ่งลักษณะอาการที่เป็นเช่นนี้ ชาวบ้านจะเรียกกันว่าเป็นโรคเด็กดักแด้ กรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าว“แนวหน้า”ได้รับทราบเรื่อง เนื่องมาจากมีพลเมืองดีแจ้งมาว่าเด็กทั้งสองคนพักอาศัย อยู่ที่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 4 บ้านหนองไผ่ ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ และเมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวก็ได้พบ น.ส.หนูพันธ์ สมนึก อายุ 35 ปี ผู้เป็นแม่กำลังนั่งเล่นอยู่กับสองพี่น้อง คือ ด.ญ.สายสวรรค์ ดวนใหญ่ อายุ 9 ขวบ และเด็กชายอภินันท์ ดวลใหญ่ อายุ 3 ขวบ
น.ส.หนูพันธ์ สมนึก เปิดเผยว่า ตนได้อยู่กินกับสามี คือ นายไพรัช ดวนใหญ่ อายุ 38 ปี จนต่อมาตั้งท้องและคลอดลูกสาวคนแรก ซึ่งเมื่อตนคลอดลูกสาวออกมาก็พบว่า ลูกสาวของตนมีอาการผิดปกติตามผิวหนัง โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่าลูกสาวของตนเป็นโรคเด็กดักแด้ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ตนจึงปรึกษากับแพทย์ว่าหากตนจะมีลูกอีก เมื่อคลอดลูกออกมาแล้วจะเป็นโรคแบบเดียวกันนี้อีกหรือไม่ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะส่วนมากโรคแบบนี้จะพบในบุตรแค่คนเดียว
แต่ปรากฏว่าเมื่อตนตั้งครรภ์มีลูกอีกคนและคลอดบุตรออกมาก็ปรากฏว่า ด.ช.อภินันท์ ก็เป็นโรคเด็กดักแด้เช่นกัน ทำให้ในแต่ละเดือนตนเองและสามีต้องจ่ายเงินเหมารถยนต์ในหมู่บ้านครั้งละ 400 บาท เพื่อพาลูกทั้ง 2 คน ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อไปพบแพทย์ตรวจโรคและเอายามากิน มาทา ซึ่งยารักษาโรคผิวหนังที่ได้ก็จะเป็นยาวาสลีนที่เอามาใช้ทาผิวหนังเพื่อให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น กับยาACITRETIN TAB ขนาด 10 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม บ้างครั้งตนก็ไม่มีเงินทำให้ไม่สามารถเหมารถยนต์พาลูกๆ ไปพบแพทย์ได้
น.ส.หนูพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตนกับสามีประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ปลูกหอม รายได้วันๆหนึ่งก็ได้ไม่มากนัก แต่อาศัยเงินจากน้องทั้งสองคนมีรายได้จากเงินคนพิการเดือนละ 500 บาท เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในครอบครัวได้บ้าง ประกอบกับการรักษาน้องทั้งสองคนสามารถใช้สิทธิผู้พิการในการรักษาได้ จึงทำให้ไม่ต้องเสียค่ารักษามากนัก แต่ที่หนักใจก็คือ เรื่องของเงินที่จะใช้ในการเหมารถพาน้องทั้งสองคนไปรพ.ศรีสะเกษ
มารดาของสองหนูน้อยดักแด้ ยังเล่าให้ฟังด้วยอาการน้ำตาคลออีกว่าโรคดังกล่าวนี้ทำให้ผิวหนังของเด็กไม่สามารถถูกแสงแดดได้มาก เพราะจะมีอาการแสบร้อน คันตามผิวหนังอยู่ตลอด ในขณะที่สภาพอากาศในช่วงนี้ร้อนจัด จึงส่งผลให้ลูกทั้ง 2 คนของตนทรมานเป็นอย่างมากกับอาการเจ็บแสบบริเวณผิวหนัง ซึ่งในแต่ละวันตนต้องนำลูกทั้ง 2 ไปอาบน้ำ วันละหลายสิบรอบ เพื่อบรรเทาอาการ แต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“อยากวิงวอนไปยังหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ใจบุญ เข้ามาให้การช่วยเหลือ เพราะปัจจุบันนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเหลียวแล หรือยื่นมือเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเรื่องการให้การรักษาลูกของดิฉันเลย ดิฉันรู้สึกสงสารลูกเป็นอย่างมากที่ต้องทรมานเช่นนี้ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกเกิดมาเป็นเช่นนี้ ทุกวันนี้ก็ได้แต่ภาวนาว่า สักวันหนึ่งลูกๆจะหายจากโรคนี้”น.ส.หนูพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการให้ความช่วยเหลือสองพี่น้องเด็กดักแด้ สามารถโอนเงินผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ ในชื่อบัญชีน.ส.หนูพันธ์ สมนึก เลขที่บัญชี 557-239770-5 หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากน.ส.หนูพันธุ์ ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 082-369-6909 ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี