"ครูตั้น"เผยคดี"ผอ.เหี้ยม"ชิงทอง รอผลสอบตำรวจชัดเจนก่อน ย้ำโทษสูงสุดแน่ วอนสังคมอย่าให้คนคนเดียวทำครูและผอ.ทั้งประเทศบอบช้ำ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายประสิทธิขัย เขาแก้ว ผอ.โรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่าเป็นผู้ก่อเหตุปล้นร้านทอง และยิงประชาชนเสียชีวิตใน จ.ลพบุรี ว่า ศธ.ก็รอให้ขบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความชัดเจนออกมาก่อน หากมีการกระทำผิดจริง ในส่วนของ ศธ.ก็ต้องมีการลงโทษขั้นสูงสุด ส่วนโทษสูงสุดคือให้ออก เพราะเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งความจริงผิดไม่แรงขนาดนี้ก็ไล่ออกแล้ว แต่ขณะนี้รอให้การสอบสวนถึงที่มาที่ไปให้ชัดเจนก่อน ศธ.จึงจะวางมาตรการที่เหมาะสมได้

เบื้องต้นทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้ย้าย ผอ.คนดังกล่าวออกจากพื้นที่แล้ว และได้มอบหมายให้ครูที่อยู่ในโรงเรียนช่วยดูและเด็กๆ และให้การฟื้นฟูจิตใจเด็ก และอธิบายให้เด็กฟังถึงบริบทของสังคมที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ถึงแม้จะเป็นความเจ็บปวด แต่ก็เป็นโอกาสที่เราจะได้ให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน ว่ายังมีสิ่งดีๆ ที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด ก็ให้เด็กๆ ทุกคนระมัดระวัง ก็หวังว่า คุณครูที่อยู่ในโรงเรียนดังกล่าวจะสามารถดูและจัดการได้ ซึ่งผมก็บอกผู้บริหารเขตพื้นที่ไปแล้วว่า หากขาดเหลือต้องการอะไรเพิ่มเติม ทางเราก็เตรียมพร้อมที่จะดูแล

ทั้งนี้ เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ก็จะมีเจ้าหน้าที่จิตวิทยา จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปช่วยดูแลฟื้นฟูจิตใจของเด็กๆ หากมีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียนอีกวันก็ดำเนินการได้ ซึ่งทางเขตพื้นที่จะรวมพลังแบ่งงานกันไปช่วยดูแลโรงเรียนและเด็ก

ส่วนที่ ผอ.คนดังกล่าวนี้เข้าสู่ตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน เร็วมากนั้น เรื่องนี้ตนเคยพูดมาก่อนแล้วถึงการเข้าสู่ตำแหน่ง จะต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องความสามารถในการบริหาร จิตวิทยา สภาจิตใจ ทุกๆ เรื่องเป็นเรื่องที่เราต้องคำนึงถึงในส่วนของผู้บริหาร จากนี้ไปกระทรวงศึกษาฯ จะเข้าไปดูเรื่องการเข้าตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน อย่างจริงจัง ซึ่งตนก็ได้หารือกับผู้บริหาร ศธ.ในเรื่องผู้บริหารที่เลื่อนตำแหน่งเร็วทั้งที่อายุยังน้อย ซึ่งฟาสแทรคได้ แต่จะต้องผ่านการอบรมพัฒนอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความพร้อม ความเข้มข้นในการพัฒนา ซึ่งตนไม่ได้มีปัญหาที่จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีโอกาส แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความเข้มข้นในการอบรมพัฒนาที่เข้มข้นมากๆ และอยากให้มีประสบการณ์เป็นรอง ผอ.ก่อน แต่โลกอาจจะเปลี่ยนไปแนวทางจึงเปลี่ยนไป ประกอบกับความต้องการรวดเร็วในบางตำแหน่งในบางพื้นที่ และตนก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้สังคมมองว่าครูและผู้บริหารโรงเรียนเป็นคนไม่ดี เพราะคนของ ศธ.เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณ ที่ตั้งใจทำให้การศึกษาพัฒนาไปได้ เพียงแต่ไม่ได้รับการสนสนุนบางอย่าง จึงทำให้การพัฒนาตนเองไม่ครบถ้วน ในอนาคต ศธ.จะผลักดันให้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีอุปกรณ์ มีแรงจูงใจที่พร้อมให้ทุกคนทำงานอย่างมีประสุทธิภาพ และการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียน ตนอยากให้ผ่านการประเมิน 4 ครั้ง ต่อ 2 ปี

"ผมไม่อยากให้นำประเด็นของคนๆ เดียว ซึ่งเราก็ยังไม่รู้เหตุผลลึกๆ ว่าคืออะไร มาทำให้คุณครู ผู้บริหารโรงเรียนทั้งประเทศ บอบช้ำไปทั้งหมด คงไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง สังคมอย่าตำหนิกันแบบนี้ ขอให้แยกเป็นคนๆ ไป แต่แน่นอน เมื่อ ศธ.ทราบข้อมูลชัดเจนแล้วก็จะหาแนวทางแก้ไขต่อไป ส่วนการเยียวยาญาติของผู้เสียชีวิต ทางสำนักงานเขตพื้นที่ คุณครู จะเข้าไปช่วยดูแล และนักจิตวิทยาจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปช่วยดูแลด้วย