กรมชลประทานบูรณาการวางมาตรการรับมือวิกฤติแล้ง 2 จังหวัด EEC ใช้ระบบอ่างพ่วงเต็มศักยภาพ ผันน้ำ-สูบน้ำแก้ปัญหา มั่นใจจะมีน้ำพอกินพอใช้จนกว่าฝนจะมาในเดือนกันยายน 2563แน่นอน
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สภาอุตสาหกรรม บริษัท East Water วางมาตรการรองรับวิกฤติขาดแคลนน้ำในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะในจ.ชลบุรี และระยอง เนื่องจากปริมาณฝนสะสมปี 2562 ในภาคตะวันออกต่ำกว่าค่าปกติ 30-40% ส่งผลให้ปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำจ.ระยองและชลบุรีเหลือน้อย และจากคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งปี 2563 พบว่าพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว มีโอกาสประสบภัย
ทั้งนี้ หากปริมาณฝนเป็นไปในลักษณะเดียวกับปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่ประสบภัยแล้งขั้นวิกฤติ ในภาคตะวันออกจะเริ่มมีฝนตกช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ดังนั้น
ทั้งสองจังหวัดจะมีโอกาสขาดแคลนน้ำช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายน 2563 กินระยะเวลา 75 วัน ดังนั้น กรมได้เริ่มมาตรการรองรับวิกฤติขาดแคลนน้ำ ด้วยการติดตามสภาพภูมิอากาศ ปริมาณฝน และปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพื่อประเมินปริมาณน้ำต้นทุนทุกสัปดาห์ ซึ่งจะใช้ระบบอ่างพวงเป็นเครื่องมือรับภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นเต็มศักยภาพ
“อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างฯหนองปลาไหล จ.ระยอง มีปริมาณน้ำรวมกัน 50 ล้านลบ.ม. กรมชลประทานได้เพิ่มน้ำต้นทุนให้ทั้ง 2 อ่างฯ ด้วยการผันน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ 60 ล้านลบ.ม. พร้อมกับติดตั้งระบบสูบน้ำชั่วคราวจากคลองสะพานท้ายอ่างฯประแสร์สูบกลับเข้าเติมอ่างฯประแสร์ เพื่อนำน้ำไปให้ อ่างฯคลองใหญ่ และอ่างฯหนองปลาไหล 18 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ทำให้ขณะนี้มีน้ำต้นทุนรวม 128 ล้านลบ.ม. รวมทั้งเตรียมพร้อมการผันน้ำจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี มาลงอ่างฯประแสร์ พร้อมหารือการผันน้ำจากอ่างฯประแกด จ.จันทบุรี และจากแหล่งน้ำอื่นๆช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 มาที่จุดสูบมาอ่างฯ ประแสร์ สำรองไว้กรณีฉุกเฉิน”รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนจ.ชลบุรี กรมสำรองน้ำในอ่างฯคลองหลวงรัชชโลทรไว้ให้กปภ. ชลบุรี 10 ล้านลบ.ม. พร้อมเตรียมเชื่อมเส้นท่อส่งน้ำจากสถานีสูบน้ำพานทองกับท่อผันน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างฯ บางพระ เพื่อสูบน้ำจากลุ่มน้ำคลองหลวงและจากสถานีสูบน้ำพานทองได้ทันทีหากมีฝนตก เช่นเดียวกับที่พัทยากปภ.พัทยาเร่งผันน้ำจากอ่างฯ หนองปลาไหลไปยังสถานีผลิตน้ำมาบยางพรให้ได้วันละ 110,000 ลบ.ม.จากปัจจุบันผันได้วันละ 89,000 ลบ.ม. พร้อมเตรียมแผนติดตั้งระบบสูบน้ำเคลื่อนที่เพื่อสูบน้ำจากอ่างฯ ห้วยตู้ 1,2 และมาบฟักทอง 1,2 มาผลิตน้ำประปา รวมถึงการขอเพิ่มการใช้น้ำจากบ่อน้ำของเอกชนเข้ามาเสริมในระบบ โดยขณะนี้ได้มีการซื้อขายล่วงหน้าไว้แล้ว มั่นใจจะมีน้ำใช้จนพ้นหน้าแล้งแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี