อัยการฟ้องแล้ว แก๊งแชร์แม่มณี 9คนทั้งเดียร์ เจ้าของวงแชร์ ผัวเด็ก แม่เดียร์ ลวงเหยื่อกว่า2,500 รายตุ๋นลงทุน ตอบแทนสูง เสียหายกว่า 1,300 ล้านเบิกตัวสอบคำให้การ เช้า27ม.ค.
วันที่ 24 มกราคม 2563 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 นำสำนวนมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ ทิพย์ประเวช เจ้าของวงแชร์ “แม่มณี”, นายเมธี หรือบอส ชิณภา, นายปิยะ หรือเป้ คีรีสุวรรณกุล, น.ส.พรสวรรค์ หรือฝ้าย ภูอินอ้อย, น.ส.ธวัลรัตน์ ทิพย์ประเวช มารดาน.ส.วันทนีย์ , น.ส.วิไลวรรณ หรือมิ้น หงษ์ประชาทรัพย์, น.ส.นิตยา หรือโบว์ พินนอก, นายบริภัทร เข็มรัตน์ และนายปิยะเศรษฐ์ ธิโสภา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
โดยอัยการโจทก์ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 มี.ค. - 30 ต.ค. 2562 จำเลยที่ 1, 4 ได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศให้ประชาชนทั่วไปมาร่วมออมเงินหรือร่วมลงทุนกับจำเลยที่ 1, 4 กับพวก โดยจะได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติเป็นพิเศษ ซึ่งมีแผนการตลาดหรือรูปแบบการลงทุนจัดแบ่งออกเป็นวงแชร์จำนวนการลงทุนวงละ 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 930 บาท ต่อหนึ่งวง เมื่อครบกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ลงทุนหรือวันที่ฝากเงินมายังบัญชีที่พวกจำเลยแจ้ง โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินที่ลงทุนพร้อมผลตอบแทนกลับไปจำนวนวงแชร์ละ 1,930 บาท
ต่อจำเลยที่ 1, 4 กับพวก ได้เปลี่ยนเป็นการลงทุนระยะสั้นดังนี้ โดยลงทุน 400 บาท ได้รับผลตอบแทน 100 บาท เมื่อครบกำหนด 7 วัน โดยจะได้รับคืนเป็นเงิน 500 บาท, ลงทุน 400 บาท ได้รับผลตอบแทน 150 บาท เมื่อครบกำหนด 12 วัน จะได้รับคืนเป็นเงิน 500 บาท, ลงทุน 150 บาท ได้รับผลตอบแทน 150 บาท เมื่อครบกำหนด 12 วัน จะได้รับคืนเป็นเงิน300 บาท, ลงทุน 150 บาท ได้รับผลตอบแทน 150 บาท เมื่อครบกำหนด 13 วันจะได้รับคืนเป็นเงิน 300 บาท
โดยข้อความดังกล่าวล้วนเป็นความเท็จ เพราะความจริงแล้วจำเลยที่ 1, 4 กับพวก ไม่ได้จัดให้มีการออมเงินหรือร่วมลงทุนโดยได้รับผลตอบแทนมากกว่าปกติดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นอุบายให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงเท่านั้น โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายรวม 2,533 ราย
ภายหลังจำเลยที่ 1, 4 ได้ร่วมกันกระทำความผิดแล้ว จำเลยทั้ง9คนได้บังอาจร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนทั่วไป ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงฯ และร่วมกันหลอกลวงประชาชนโดยโฆษณาหรือประกาศฯ ให้ประชาชนทั่วไปมาร่วมออมเงินหรือร่วมลงทุนกับจำเลยทั้งหมด จะได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติเป็นพิเศษดังกล่าว โดยแผนการตลาดหรือการลงทุนแต่ละแผนนั้น จำเลยทั้งหมดจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงินแก่ผู้ร่วมลงทุนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ โดยได้ผลประโยชน์ตอบแทนตั้งแต่อัตราร้อยละ 1,116 – 3,040.45 ต่อปี อันเป็นความเท็จ และเป็นการประกาศให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุน ซึ่งเป็นการกู้ยืมเงินตามกฎหมาย
โดยจำเลยทั้งหมดจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายจะพึงจ่ายได้ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.80 ต่อปีเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วพวกจำเลยทั้งไม่สามารถจ่ายผลประโยชน์ในอัตราดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนได้ โดยพกจำเลยทั้งรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าจะนำเงินที่ได้จากผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายเป็นผลประโยชน์หมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนรายก่อน เมื่อไม่มีผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนเพิ่ม ผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนก็ไม่สามารถได้รับผลตอบแทนและเงินร่วมลงทุนกลับคืนได้ และพวกจำเลยทัที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนไม่สามารถประกอบกิจการใดๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าวพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้จ่ายเงินให้กับจำเลยทั้งเก้าไปตามจำนวนเงินของผู้เสียหายแต่ละราย รวมทั้งสิ้น 1,376,215,359.74 บาท
โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ศาลพิจารณาคำฟ้องแล้วให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.167/2563
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ญาติของน.ส.ธวัลรัตน์ จำเลยที่ื5 มารดาของน.ส.วันทนีย์ จำเลยที่1 นายบริภัทร จำเลยที่ 8 และนายปิยะเศรษฐ์ จำเลยที่ 9 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวนหนึ่งขอปล่อยขั่วคราว
อย่างไรก็ตามศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า อัยการโจทก์ตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ลักษณะเป็นขบวนการพฤติการณ์แห่งคดีมีความร้ายแรง ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสาม ยกคำร้องและให้เบิกตัวพวกจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำมาสอบคำให้การในวันที่ 27 ม.ค.นี้ เวลา09.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี