ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า ลุ่มน้ำสะแกกรัง มีพื้นที่ 4,911.48 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ อุทัยธานี นครสวรรค์ และกำแพงเพชร เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และคุณภาพน้ำ ตามลักษณะกายภาพของลุ่มน้ำและวิถีชีวิตของชุมชนที่อาศัยอยู่ พื้นที่ตอนบน เป็นพื้นที่สูงชัน สภาพป่าไม้อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ตอนกลาง เป็นรูปคลื่น เนื้อดินร่วนปนทรายไม่อุ้มน้ำ ทำให้พื้นดินแห้งแล้ง การกัดเซาะพังทลายสูง และเกิดตะกอนทับถมจนตื้นเขินไม่สามารถระบายน้ำได้ ตลอดจนแหล่งเก็บกักน้ำและระบบกระจายน้ำมีไม่พอ จึงมักประสบปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งเสมอ และพื้นที่ตอนล่าง เป็นที่ราบลุ่ม เป็นจุดรวมของลำน้ำสาขา อีกทั้ง มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เกิดตะกอนในลำน้ำทำให้ตื้นเขิน รวมทั้งได้รับอิทธิพลจากระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเกิดปัญหาอุทกภัยเป็นประจำ เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียจากการขยายตัวของชุมชนเมือง การใช้สารเคมีในพื้นที่เกษตร ขาดแหล่งเก็บกักน้ำในพื้นที่ด้านบนที่จะช่วยระบายน้ำมาเจือจางและผลักดันน้ำเสียช่วงฤดูแล้ง
ดังนั้น การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำสะแกกรัง ต้องพิจารณาองค์รวมให้สอดคล้องระหว่างพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยสทนช.จัดให้ศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์พื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง เพื่อประเมินศักยภาพข้อจำกัดของสิ่งแวดล้อม และแนวทางพัฒนาบริหารจัดการน้ำที่สมดุลและพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการพิจารณาทางเลือกทั้งจากนโยบายรัฐ ความต้องการของประชาชน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นทางเลือกการพัฒนาที่สะท้อนความต้องการของกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มากที่สุด จากการศึกษาได้ผลลัพธ์สำคัญ 2 ส่วน คือ ยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง โดย “มุ่งสู่การพัฒนาเกษตรพื้นถิ่นร่วมกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐ” 2. แผนงานตามแนวทางพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการระดับยุทธศาสตร์ แบ่งเป็น 3 ระยะ สอดคล้องกับแผนพัฒนาลุ่มน้ำที่ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนด ประกอบด้วย แผนบริหารจัดการ 8 ด้าน รวม 20 แผนงาน ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทน้ำทั้ง 6 ด้าน และเพิ่มเติมแผนพัฒนาการ
ท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพผลิตสินค้าเกษตร มาตรการบรรเทาผลกระทบ และมาตรการติดตามตรวจสอบ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปทำแผนให้สอดคล้องกับมาตรการดังกล่าว และดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาของแผนยุทธศาสตร์
ซึ่งระยะสั้นจะเน้นจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ที่ไม่เพียงพอ เช่น หมู่บ้านขาดแคลนน้ำในลุ่มแม่วงก์ สะแกกรังตอนล่างส่วนที่ 1 ซึ่งมีศักยภาพน้ำบาดาลต่ำ รวมทั้งเก็บน้ำในลำดับ โดยเฉพาะลำน้ำแม่วงก์ และระยะกลางจะเสนอแผนให้วางแนวทางผันน้ำ เพื่อลดปัญหาอุทกภัยในชุมชนลาดยาว และเก็บน้ำในแม่น้ำสะแกกรังในพื้นที่ตอนล่าง ซึ่งเข้าข่ายต้องจัดทำรายงาน EIA โดยหน่วยงานที่มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง 14 หน่วยงาน จะเร่งจัดเข้าแผนงานเพื่อเสนอรับการจัดงบประมาณต่อไป
“สทนช. จะเสนอผลโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์พื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง ต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาเห็นชอบ และใช้ประกอบทำแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังต่อไป โดยหวังให้เป็นต้นแบบต่อยอดขยายผลไปใช้บริหารจัดการทรัพยากรน้ำในทุกพื้นที่ลุ่มน้ำ เพื่อแก้วิกฤตการณ์น้ำของประเทศอย่างเป็นระบบยั่งยืน” เลขาธิการ สทนช. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี